Navigation


 บทความ


 Go back to the forum

EVERYBODY[THEKOP]™บอร์ดของคนรักหงส์   

ฉลาดที่จะซื้อ! ความต่างที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เหนือกว่า แมนยู ทุกกระบวนท่า

Admin | Published on the tue 04 Feb 2020, 10:06 | 242 อ่าน


คล้อยหลังจากที่ตลาดซื้อขายเดือน มกราคม ปิดฉากไป มันก็คงถึงเวลาที่แฟนบอลอย่างเราๆ จะต้องมาลุ้นกันว่าแข้งหน้าใหม่คนไหน จะปัง หรือจะดับกันบ้าง?


สตีเว่น เบิร์กไวจ์น เปิดตัวแบบสวยหรูไปแล้วกับประตูที่หวดใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ บรูโน แฟร์นันเดส ก็แนะนำตัวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ไม่เหมือนกับ ทาคูมิ มินามิโนะ แนวรุกชาวญี่ปุ่นของ ลิเวอร์พูล ที่ย้ายมาตั้งแต้ต้นๆ ตลาดหน้าหนาว แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังมีปัญหาในการปรับตัวอยู่


อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เพราะการจะพิสูจน์ของจริงได้ เราคงต้องดูกันอีกยาวๆ และถ้ามองในแง่นี้! มันก็ดูเหมือนกับว่าแฟนๆ จะรู้สึกให้ความมั่นใจในการปลุกปั้นนักเตะของทางฝั่ง ลิเวอร์พูล มากกว่า
ทั้งๆ ที่ มินามิโนะ ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่บรรดาเกจิผู้เชี่ยวชาญกลับมีความรู้สึกว่าอดีตดาวเตะ เร้ดบูลล์ ซัลส์บวร์ก จะกลายเป็นแข้งระดับคุณภาพที่ถิ่น แอนฟิลด์ ในอีกไม่ช้า
ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้เพราะพื้นฐานโครงสร้างการบริหารงานอันแข็งแกร่งของ ลิเวอร์พูล ล้วนๆ

หลักการเซ็นสัญญาของ ลิเวอร์พูล พวกเขาให้ความสำคัญกับความเหมาะสมของผู้เล่น สไตล์ต้องใช่ มีแนวโน้มที่จะเข้าใจระบบของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พ่วงด้วยสถิติทางตัวเลขอีกมากมายจากทีมงาน
ต่อให้มีแข้งซูเปอร์สตาร์ว่างอยู่ในตลาด และ ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะได้ตัวมา แต่ถ้านั่นคือสิ่งที่ไม่จำเป็น และไม่ได้เป็นตัวเลือกของพวกเขาตั้งแต่แรก พวกเขาก็จะไม่เหลียวมองเลยแม้แต่น้อย
นั่นจึงทำให้เราได้เห็นนักเตะอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จี่นี่ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่ และอีกหลายๆ คนมาร่วมทัพ เช่นเดียวกับการรอ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ วันแล้ววันเล่า ไม่ยอมนอกใจไปจีบแนวรับที่ว่างๆ คนอื่นในช่วงนั้นอย่าง โบนุชชี่, ดาวิซอน หรือใครหน้าไหนเลย


ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นออกมาหลังหมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับเป็นทิศทางที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญกับความเป็นซูเปอร์สตาร์เป็นหลัก และไม่เคยมีการวางแผนระยะยาวเหมือนที่ “หงส์แดง” ทำให้เห็นในช่วงหลายปีหลังสุด  
แน่นอนว่าการไม่มีแชมป์มาประดับ คือส่วนหนึ่งที่ทำให้การเซ็นสัญญาไม่ราบรื่นเหมือนเมื่อก่อน แต่ในขณะเดียวกัน บอร์ดบริหารของ “ปีศาจแดง” ก็แสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพในการคว้าตัวนักเตะเช่นกัน
ค่าเหนื่อยของนักเตะแต่ละคนแพงสุดๆ ขณะที่โค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายเดือน มกราคม ก็ไปตัดสินใจคว้าตัว โอเดียน อิกาโล่ มาจาก เซียงไฮ้ เสิ่นหัว
มันไม่ใช่ว่า อิกาโล่ จะต้องเป็นนักเตะที่แย่ เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วเขาอาจจะร่ายฟอร์มได้ร้ายกาจสุดๆ ก็เป็นได้ แต่นั่นก็ไม่สามารถปิดบังความจริงที่ว่า นี่คือการซื้อแบบ Panic Buy ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาไม่ได้วางแผนล่วงหน้า
กับทีมที่รู้ตัวว่าจะเสีย โรเมลู ลูกากู ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ของปีที่แล้ว และรู้ว่าจะเสีย อเล็กซิส ตั้งแต่ปลายซีซั่นก่อน นั่นแปลว่าพวกเขารู้ตัวว่าจะต้องหากองหน้าคนใหม่เข้ามาเสริมทัพตั้งแต่เมื่อ 1 ปีก่อน หรืออย่างน้อยก็ราวๆ 9 เดือน


กับเวลาที่มากมายถมถืดขนาดนี้ แต่ “ปีศาจแดง” กลับไม่สามารถดึงกองหน้าคนไหนเข้ามาทดแทนได้เลย ไม่ว่าจะช่วงซัมเมอร์ และต้องรอจนถึงแทบวินาทีสุดท้ายของตลาด มกราคม เพื่อที่จะคว้าตัว อิกาโล่ มา
นี่คือปัญหาเรื้อรังของ “ผีแดง” ในยุคสมัยนี้ ทีมงานของพวกเขาเดินเรื่องเจรจาเคสต่างๆ ออกมาได้แย่ในหลายๆ ครั้ง ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยากเย็นเกินกว่าที่มันควรจะเป็น แม้กระทั่ง บรูโน่ แฟร์นันเดส
2 ตัวใหม่ที่ได้มา อาจจะเป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้แฟนบอลรู้สึกชื่นใจ แต่ในระยะยาว ทุกอย่างจะยังคงดูมืดมนอยู่เสมอ ในทุกๆ ครั้งที่ตลาดซื้อขายเปิดขึ้นครับ



Cr:smmsport

About the author