แอนฟิลด์ไม่สิ้นคนดี : จัดอันดับ 10 แข้งดีสุดของลิเวอร์พูลนับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีก
Wed 06 Dec 2017, 11:14
เซ็บ สแตฟฟอร์ด บลูร์ นักเขียนของ FFT เลือก 10 นักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากยอดเยี่ยมฝั่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ในรอบ 24 ปีที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล คือสโมสรที่แสนพิเศษพวกเขามีดาวเตะระดับทรงอิทธิพลมากมาย และนับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อลีกสูงสุดเป็นพรีเมียร์ลีกแม้ว่าในบางครั้งพวกเขาอาจจะต้องผิดหวังอยู่บ้างแต่นั่นไม่สามารถวัดค่าความยิ่งใหญ่ได้ด้วยถ้วยรางวัล...และนี่คือ 10 นักเตะที่ยิ่งใหญ่และเป็นผู้เล่นสำคัญของ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกเป็นต้นมา
10. เปเป้ เรน่า
หากต้องเลือกผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด 1 คน คงเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากเพราะแต่ละตัวเลือกก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป เดวิด เจมส์ ในวัยหนุ่มก็ยังไม่โดดเด่นพอ ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์ ก็แสดงข้อพกพร่องให้เห็นอย่างชัดเจน ซิมง มิโญเล่ต์ และ เจอซี่ย์ ดูเด็ค ก็ไม่ต่างกันนัก แม้รายหลังมีโปรไฟล์อันยิ่งใหญ่จากค่ำคืนในอิสตันบูลยืนยันอยู่ก็ตาม
จริงอยู่ที่ เรน่า ก็มีข้อผิดพลาดให้เห็น แต่บ่อยครั้งเขาก็แสดงความยอดเยี่ยมออกมาได้เสมอที่ได้รับโอกาส แม้ไม่มีความสำเร็จที่จับต้องได้ก็ตาม ในบทความของ FFT เมือปี 2015 ที่ อเล็กซ์ เฮสส์ เขียนถึง เรน่า ว่า "เรน่า สามารถสร้างความไว้วางใจได้ในฐานะผู้รักษาประตู เขามีความสามารถไม่ต่างจากนายทวารของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป เขาคือนักเตะที่สะสมเหรียญรางวัลมากมาย เรน่า คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, แชมป์ยุโรป และยังสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ แม้ว่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่บนม้านั่งสำรองก็ตาม"
มันคงดีกว่าถ้าเราพูดถึงเขาในฐานะของความกล้าหาญและประสบการณ์ที่มี เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการเซฟลูกโทษจนพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีก คัพและเอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมได้เข้าไปชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย การลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกกว่า 285 นัดคือสิ่งยืนยันว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม แม้จะไม่ได้เป็นตัวเลือกอันดับแรกของทีมชาติสเปนก็ตาม
9. จอห์น บาร์นส์
ในช่วงเวลาที่พรีเมียร์ลีกเริ่มแข่งขันเป็นครั้งแรกนั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ บาร์นส์ เขาคือผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างให้กับเกมได้ ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลและพาบอลไปข้างหน้า ในช่วงต้นๆ ของปี 1990 เขายังมีบทบาทเป็นพี่เลี้ยงของนักเตะดาวรุ่งในทีม และยังเป็นผู้เล่นตัวเก๋าและมีอิทธิพลของทีมอีกด้วย
นอกเหนือจากผลงานในสนามเเล้ว บาร์นส์ ยังเป็นคนสำคัญในห้องแต่งตัวของทีมเช่นกัน จากการให้สัมภาษณ์กับ เกรแฮม ฮันเตอร์ เมื่อไม่นานมานี้ สตีฟ แม็คมานามาน อดีตนักเตะของหงส์เเดงพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า บาร์นส์ มีความสำคัญมากแค่ไหนในฐานะนักเตะที่เคยคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 1987-1988 และทำได้อีกครั้งในฤดูกาล 1989-1990 เรียกได้ว่าเขาคือผู้เล่าขานความสำเร็จในอดีตเลยก็ว่าได้
การได้ฝึกซ้อมกับนักเตะทีมีประสบการณ์และมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของสโมสรโดยถ่องแท้คือสิ่งสำคัญ เขาเป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ บาร์นส์ ทำให้นักเตะอย่าง แม็คมานามาน, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และนักเตะคนอื่นๆ ได้รู้ซึ้งถึงหน้าที่อันสำคัญของพวกเขา
8. ซามี่ ฮูเปีย
แฟนบอลทีมอื่นๆ อาจจะหลงลืมชื่อของ ฮูเปีย กันไปบ้าง และนั่นเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอยู่บ้าง เพราะเขาคือนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย,ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ อีกอย่างละ 2 สมัย
ฮูเปีย คือนักเตะในยุคเปลี่ยนผ่านสำหรับตำแหน่งกองหลัง เขามีการอ่านทางบอล เก็บจังหวะ 2 ได้อย่างเด็ดขาด เขามีอิทธิพลอย่างมากในแผงหลังและยังมีการออกบอลยาวในระดับที่เชื่อใจได้ ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นคุณสมบัติของกองหลังที่ดีในฟุตบอลสมัยใหม่ทั้งสิ้น และมูลค่าของ ฮูเปีย ก็ไม่มีทางที่จะเลือนหายไปตามกาลเวลา
เขาเป็นนักเตะตัวหลักให้ลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ปี 1999 ถึงปี 2009 ในยุคนั้นเขาเหนือกว่ากองหลังสายออกบอลอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ โซล แคมป์เบลล์ นอกจากนี้ทักษะการอ่านทางบอลก็ทำได้ดีกว่า จอห์น เทอร์รี่, เล็ดลี่ย์ คิง และ สเตฟาน อ็องโชซ์ ด้วยความสามารถอันรอบด้านเช่นนี้ รางวัลทั้งชีวิตที่เขาได้มาจึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
7.ไมเคิ่ล โอเว่น
เมื่อพูดถึง โอเว่น แล้วล่ะก็ เขามักถูกนึกถึงประตูในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสเสียส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ควรลืมว่าช่วงเวลาของเขากับ ลิเวอร์พูล ก็เจิดจรัสหาตัวจับยากแค่ไหน
ตอนนี้เขาเป็นกูรูฟุตบอลทางช่องโทรทัศน์ของอังกฤษ รวมถึงหันไปเอาดีในการเป็นเจ้าของกิจการม้าแข่ง และเพิ่งลงแข่งขันเองเป็นครั้งแรกเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นเส้นทางนี้ นับตั้งแต่มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริง จนทำให้อาชีพค้าแข้งของเขาไม่ยืนยาว อย่างไรก็ตามเขาคือ 1 ในนักเตะพรสวรรค์มากที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ
118 ประตูจากการลงเล่นเกมลีก 216 นัดช่วยยืนยันถึงความยอดเยี่ยมของเขา มีเพียง เจอร์ราร์ด และ ฟาวเลอร์ เท่านั้นที่ยิงประตูได้มากกว่าโอเว่น น่าเสียดายที่สไตล์การเล่นของเขาส่งผลต่ออาการบาดเจ็บในระยะยาว โอเว่นคือนักเตะที่ระเบิดพลังสปีดต้นได้อย่างเร็วจี๋ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจบสกอร์ระยะเผาขนและคมกริบเสมอยามที่อยู่ในเขตโทษ
ในปีต่อมาๆ อาจมีนักเตะที่ลงเล่นพร้อมสร้างความเอ็นเตอร์เทนให้กับแฟนบอลและแจ้งเกิดขึ้นมามากมาย แต่ไม่มีใครที่เทียบได้กับ โอเว่น นักเตะรูปร่างเล็กแต่เต็มไปด้วยความสามารถขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่หาได้ง่ายๆ เลยแม้แต่น้อย
เขาอาจไม่ได้เป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านเหมือนมาจากดาวดวงอื่นๆ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ครั้งหนึ่งเราไม่อาจละสายตาจาก ไมเคิ่ล โอเว่น ได้ยามที่บอลอยู่กับเท้าของเขา
6. สตีฟ แม็คมานามาน
โยฮัน ครัฟฟ์ เคยพูดถึง แม็คมานามาน ในช่วงที่ยังค้าแข้งอยู่ในสเปนว่า "เป็นนักเตะที่ทุกคนในทีมต้องการเล่นด้วย" ความหมายของมันก็คือ เขามีความสามารถที่จะแทรกซึมไปได้กับทุกระบบการเล่นนั่นเอง
เป็นที่น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่งในฐานะนักเตะที่มีความอดทนทำให้ แม็คก้า ถูกจดจำในฐานะปีกระดับคุณภาพที่พร้อมโจมตีฟูลแบ็กคู่แข่งอยู่เสมอ สไตล์การเล่นของเขาค่อนข้างไม่เอื้ออำนวยกับฟุตบอลในบ้านเกิดที่เน้นพละกำลังเท่าไรนัก นั่นอาจทำให้เขาไม่ได้สร้างชื่อเสียงมากมายในฐานะนักเตะทีมชาติอังกฤษ
ในยุค 90 แนวรุกลิเวอร์พูลต้องพึ่งความสามารถของ แม็คมานามาน เป็นอย่างมากในการเอาชนะกองหลัง เขามีอิทธิพลต่อเกมและลงเล่นได้อย่างมีอิสระ วิสัยทัศน์ของแม็คก้ามักมีส่วนสำคัญในการสร้างพื้นที่ พร้อมกับฉีกเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่แข่งได้ และแน่นอนว่า เขาคือฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้เกมรุกลิเวอร์พูลลื่นไหลอย่างที่สุดในช่วงเวลานั้น
5. หลุยส์ ซัวเรซ
ซัวเรซ คือนักเตะในสไตล์ที่หาได้ยากยิ่ง เขาสร้างจังหวะการเข้าทำได้ด้วยตัวเอง เขามีความหลากหลายในการเคลื่อนไหวและเป็นฝันร้ายของแผงหลังทุกตำแหน่งไม่ใช่เเค่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเท่านั้น
ในฤดูกาล 2013/14 เป็นซีซั่นที่ดีที่สุดของเขา (31 ประตูจาก 33 นัด) และนั่นคือฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ ลิเวอร์พูล แม้โชคร้ายที่ปลายทางไม่ได้ผลตอบแทนอย่างที่หวัง และอาจไม่แฟร์สำหรับคนที่ทำผลงานยอดเยี่ยมอย่างซัวเรซ อย่างไรก็ตาม เขาคือนักเตะที่โดดเด่นหนือกว่าใคร และยากที่จะหาผู้เล่นคนไหนมาเทียบเคียง
เบรนเเดน ร็อดเจอร์ส เป็นโค้ชที่มีความสามารถแต่เมื่อไร้กำลังสำคัญอย่างซัวเรซนั่นทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่มีศักยภาพพอที่จะลุ้นแชมป์ นับเเค่ประตูที่เขาทำได้ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขามีอิทธิพลและความสำคัญขนาดไหน การมี ซัวเรซ อยู่ทำให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ลงเล่นด้วยความมั่นใจ ขณะที่ จอร์เเดน เฮนเดอร์สัน ก็มีตัวฝากบอลที่ไว้ใจได้ จนทำให้งานของเขามีประสิทธิภาพ
เท่านั้นยังไม่พอ ความแข็งแกร่งในเกมรุกของซัวเรซ ยังทำให้ ลิเวอร์พูล เข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุด 8 เดือนแห่งการไล่ล่าแชมป์โดยมีซัวเรซอยู่ในทีม บ่งบอกอย่างชัดเจนถึงความยอดเยี่ยมของดาวยิงชาวอุรุกวัยรายนี้
4. ชาบี อลอนโซ่
"ผมยังคงเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลและจะเป็นอยู่เสมอตลอดไป ผมหวังว่าสิ่งนี้จะถูกปลูกฝังลงไปในตัวลูกชายของผมว่า ลิเวอร์พูลมีความหมายที่พิเศษขนาดไหน"
อลอนโซ่ กลายเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของหงส์เเดง แม้ย้ายไปค้าแข้งกับทีมใดก็ตาม และนี่คือเรื่องที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ ในฟุตบอลปัจจุบันที่นักบอลต่างประเทศจะซาบซึ้งกับช่วงเวลา 5 ปีในแอนฟิลด์
ชีวิตค้าเเข้งของ อลอนโซ่ กับ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2005 และเเชมป์เอฟเอ คัพ ปี 2006
นักเขียนของ เดอะ การ์เดี้ยน พูดถึงเกมเลก 2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 ที่ลิเวอร์พูลพบกับยูเวนตุส ไว้อย่างน่าสนใจ
"ลิเวอร์พูลจะเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย? มันน่าแปลกที่นักเตะอย่าง แฮร์รี่ คีลล์, อิกอร์ บิสคาน และ ฌิมี่ ตราโอเร่ สวมยูนิฟอร์มของลิเวอร์พูลลงเล่น แต่นั่นไม่ได้ลดค่าของทีมลงไปเลย หากเทียบกับอาการบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญในเกมนี้?" .... คำตอบนั้นคือ อลอนโซ่ ที่บาดเจ็บก่อนเกมจะเริ่มเพียงครึ่งชั่วโมง นั่นทำให้การรับมือกับนักเตะอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, พาเวล เนดเวด และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ดูยากขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกับ อิกอร์ บิสคาน และ อันโตนิโอ นูนเญซ ที่ต้องมาเล่นกองกลางร่วมกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ก็ผ่านยูเวนตุสไปได้ นั่นก็ไม่แน่ว่า หากมีอลอนโซ่ในเกมนั้น พวกเขาอาจไม่ได้เข้าชิงและไม่มีค่ำคืนที่อิสตันบูล ไม่มีถ้วยแชมป์ยุโรปก็เป็นได้ แต่ที่สุดเเล้วทันทีที่ อลอนโซ่ กลับมาลงสนามได้ เขาก็ฉายแสงถึงความโดดเด่นเเละยืนยันถึงความสำคัญของตัวเองเป็นอย่างดี การทำหน้าที่ควบคุมจังหวะอยู่ข้างหลัง สตีเว่น เจอร์ราร์ด คือการปิดทองหลังพระในแบบที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย และสิ่งที่ อลอนโซ่ ทำคือสิ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล คือยอดทีมในช่วงเวลานั้น
3. เจมี่ คาร์ราเกอร์
ต้นแบบของมืออาชีพผู้ซื่อสัตย์ คือสิ่งที่บ่งบอกถึงนักเตะอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ... เขาอาจโดนเหยียดหยามจากข้อจำกัดทางความสามารถอยู่เสมอ แต่สิ่งที่คู่ควรกับเขาคือคำว่า "ฮีโร่" และไม่มีสิ่งใดมาลดค่าของเขาได้
งานของเขาที่ สกาย สปอร์ต เเสดงให้เห็นถึงการวิเคราะห์ที่คมชัดและตรงประเด็น นั่นคือสิ่งที่สะท้อนถึงการค้าแข้งอันยาวนานของเขา คาร์ร่าอาจไม่ใช่กองหลังที่รวดเร็วและมีความเชี่ยวชาญทางด้านใดด้านหนึ่งอย่างสุดโต่ง อย่างไรก็ตาม คาร์ราเกอร์ คือนักเตะที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล มากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก
มันไม่ใช่แค่ทั้งหมดที่กล่าวมา แม้ไม่เคยได้รับคำชมมากมายอะไร แต่อายุงานของเขากับฟุตบอลอังกฤษก็แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่คู่ควร คาร์ราเกอร์ฉลาดและเข้าใจเกมเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือการพยายามทำงานหนักอยู่เสมอ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขามีคุณค่าในแบบที่ไม่มีใครเหมือน
2. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1994 ถึงเดือนพฤษภาคมปี 1996 ฟาวเลอร์ ยิงประตูในเกมลีกไปกว่า 53 ลูก หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยยิงเกิน 20 ประตูในเกมลีกฤดูกาลเดียวอีกเลย
ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของ ฟาวเลอร์ แสดงให้เห็นว่า เขาคือดาวยิงธรรมชาติที่เฉียบขาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในปี 2016 มีกองหน้าที่เล่นได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม แต่ ฟาวเลอร์ คือดาวยิงที่ทรงประสิทธิภาพในแง่ขีดจำกัดของร่ายกาย และยังสามารถยิงประตูได้ในทุกจังหวะ "ก็อด" เป็นนักเตะที่อันตรายทุกวินาที แม้อยู่นอกกรอบเขตโทษก็ตาม เท้าซ้ายของเขาเชื่อใจได้และพูดได้ว่า ฟาวเลอร์ คือศูนย์หน้าที่ครบเครื่องที่สุดในยุคแรกๆ ก่อนมันกลายเป็นที่นิยมในภายหลัง
เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในจิตวิญญาณมากเกินไป ฟาวเลอร์ เติบโตในย่าน ท็อกซ์เทธ เมืองลิเวอร์พูล ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับลิเวอร์พูลคือช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ในขณะที่ เจอร์ราร์ด คือตัวแทนและฮีโร่ของยุคสมัย ฟาวเลอร์ กลับหลงระเริงในเส้นทางที่แตกต่างกันออกไป เขาเป็นนักเตะเกเรรวมถึงมีความยโสโอหังอัดแน่นอยู่ในตัว บางครั้งเขาลงเล่นแบบขาดสติและการยั้งคิด
ฟาวเลอร์อาจต้องเจอกับเรื่องราวที่ยากลำบากจากอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์แต่สิ่งที่เขาทำไว้เมื่อ 20 ปีก่อนยังคงส่องสว่างอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
1. สตีเว่น เจอร์ราร์ด
ไม่มีข้อสงสัยใดสำหรับความยิ่งใหญ่ของ เจอร์ราร์ด แม้กาลเวลาจะผ่านไปกี่ปี เรื่องราวของมิดฟิลด์รายนี้ยังคงอมตะไม่เสื่อมคลาย
ประตูในเกมกับ คาร์ดิฟฟ์, ลูกยิงฮาล์ฟวอลเล่ย์ในเกมกับ โอลิมเปียกอส และคุณภาพที่อัดเเน่นในเกมค่ำคืนแห่งอิสตันบูล คือช่วงเวลาที่ใครๆ ต่างจินตนาการถึง
ยุคสมัยอาจเปลี่ยนไป แต่ช่วงเวลาของเจอร์ราร์ดกับลิเวอร์พูลจะถูกพูดถึงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเฉลิมฉลองความยอดเยี่ยมในอดีต ซึ่งมันช่วยย้ำเตือนความทรงจำต่อแฟนบอลลิเวอร์พูล ให้นึกถึงช่วงเวลาอันเเสนยอดเยี่ยมสำหรับโคตรกัปตันของพวกเขา
แม้มีบางทฤษฎีมาลบล้างสิ่งนี้ ด้วยการเอาตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากล่าวอ้างว่า งานของเขายังไม่สมบูรณ์ แต่มันก็ถูกพิสูจน์แล้วว่า นั่นเป็นความคิดที่ผิดถนัด เจอร์ราร์ดผ่านช่วงเวลามากมายกับลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเป็นการติดตามเชียร์มาตั้งแต่วัยเด็ก เรื่องราวเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่อันน่าเศร้า การคว้าแชมป์ยุโรปกับสโมสร คือสิ่งที่ไม่มีเหตุผลใดมาค้านได้เลย
เจอร์ราร์ด คือผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ใครจะนึกถึง ความสามารถและความสำเร็จของเขาส่งผลต่อทุกๆ สิ่งในท้องถิ่นและชุมชน ทุกช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของเจอร์ราร์ดควรค่าแก่การถูกนำมาสร้างเป็นรูปปั้นประจำเมืองเลยทีเดียว
cr:fourfourtwo.com
- เจ้าเก่าSirMosalaเหรียญสำหรับแฟนพันธุแท้โมซาลา
- Post : 94
Like : 11
Points : 11
Join : 10/11/2017
Power :
Re: แอนฟิลด์ไม่สิ้นคนดี : จัดอันดับ 10 แข้งดีสุดของลิเวอร์พูลนับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีก
Wed 06 Dec 2017, 23:24
ไม่มีใครแทนพี่เจิดได้แล้วมั้งนับจากนี้ คิดถึงพี่เจิด
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ