เปิดตัวสวย!! ฟาน ไดค์ โขกชัยเชือดท๊อฟฟีท้ายเกมส์ 2-1
Sat 06 Jan 2018, 06:02
กองหลังค่าตัวสถิติโลกประเดิมสนามในสีเสื้อหงส์แดงได้อย่างสวยหรู เมื่อเป็นผู้ทำประตูชัยช่วงท้ายเกมช่วยต้นสังกัดใหม่ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายเอฟเอคัพ
ฟุตบอล เดอะ เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ 2017-2018 รอบ 3 เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดถิ่นแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน
หงส์แดง ล่าสุดบุกเฉือน เบิร์นลีย์ ในพรีเมียร์ลีก 2-1 เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังคนใหม่ที่ได้ประเดิมสนามเป็นเกมแรกจับคู่กับ โยเอล มาติป คุมแนวรับ พร้อมโรเตชั่นแนวรุกเป็น อเล็กซ์ อ็อกเลดซ์-แชมเบอร์เลน, อดัม ลัลลานา ได้รับโอกาสปั้นเกมร่วมกับ ซาดิโอ มาเน สนับสนุน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน คอยล่าตาข่าย
ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ล่าสุดพ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน นำมาโดยแผงแนวรุกอย่าง ยานนิค โบลาซี, กิลฟี ซิเกิร์ดส์สัน และ เวย์น รูนีย์ ทำเกมให้ เจ้าหนู โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูอิน ศูนย์หน้าตัวเป้าคอยปิดบัญชี
นาทีที่ 27 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะ โจ โกเมซ วางบอลยาวจากทางขวาเข้าในเขตโทษให้ เจมส์ มิลเนอร์ ได้วอลเลย์ด้วยขวาบอลเฉี่่ยวเสาออกไป
นาทีที่ 35 หงส์แดงมาได้จุดโทษจากจังหวะ เมสัน โฮลเกท แนวรับดาวรุ่งทีมเยือนไปดึง อดัม ลัลลานา ล้มลงในเขตโทษ ก่อน เจมส์ มิลเนอร์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไป เจ้าบ้านออกนำ 1-0
ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมในสนามมีจังหวะเดือดขึ้น เมื่อ เมสัน โฮลเกท เล่นนอกเกม ไปผลัก โรแบร์โต้ ฟีร์นิโน จนกระเด็นออกไปโดนที่กั้นคนดู ก่อน ฟีร์มิโน จะวิ่งเข้ามาเอาเรื่องจนเกมต้องหยุดชะงักชั่วครู่ ก่อน จบ 45 นาที ลิเวอร์พูล 0 เอฟเวอร์ตัน 0
นาทีที่ 54 เจ้าบ้านน่าได้ประตูที่สองจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ โยนเข้ามาถึง โจ โกเมซ ได้ยืนโขกโล่งๆที่เสาสอง แต่ผิดเหลี่ยมออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 59 เร้ด แมชชีน ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน โยกหลอก ยานนิค โบลาซี ที่ลงมาช่วยเกมรับในเขตโทษ ก่อนซัดเต็มข้อด้วยซ้ายอัดที่เสาแรก แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยังยืนตำแหน่งดีปัดออกมาได้
4 นาทีถัดมาโอกาสยังเป็นของหงส์แดง เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกเลดซ์-แชมเบอร์เลน เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวาเข้ามาให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้โขกเต็มๆ แต่บอลไปตรงตัว พิคฟอร์ด สกอร์ยัง 1-0
แต่นาทีที่ 67 ทอฟฟี่ มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะโต้กลับลูกเตะมุม โบลาซี ฉกบอลได้ก่อนจ่ายยาวออกทางซ้ายให้ อเดโมลา ลุคแมน กองหน้าดาวรุ่งที่ลงมาแทน รูนีย์ ได้ใช้ความเร็วกระชากเข้ากลางก่อนแทงออกทางขวาให้ ฟีล จากีลก้า ที่วิ่งเติมขึ้นมารอจังหวะล็อคหลอกก่อนคืนกลับมาให้ ซิเกิร์ดส์สัน ได้วิ่งมาแปเน้นๆบอลเสียบเสาเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
นาทีที่ 85 หงส์แดงได้เฮลั่นเมื่อ อ็อกเลดซ์-แชมเบอร์เลน เปิดเตะมุมจากทางฝั่งซ้ายให้ เaอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้ขึ้นโขกสวนตัว พิคฟอร์ด ที่ออกมาชกบอลไม่โดน เป็นประตูให้เจ้าบ้านนำอีกรอบ 2-1
จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือน เอฟเวอร์ตัน 2-1 ทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย หรือรอบ 4 ได้สำเร็จ
Cr:goal.com
ฟุตบอล เดอะ เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ 2017-2018 รอบ 3 เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์ คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดถิ่นแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน
หงส์แดง ล่าสุดบุกเฉือน เบิร์นลีย์ ในพรีเมียร์ลีก 2-1 เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังคนใหม่ที่ได้ประเดิมสนามเป็นเกมแรกจับคู่กับ โยเอล มาติป คุมแนวรับ พร้อมโรเตชั่นแนวรุกเป็น อเล็กซ์ อ็อกเลดซ์-แชมเบอร์เลน, อดัม ลัลลานา ได้รับโอกาสปั้นเกมร่วมกับ ซาดิโอ มาเน สนับสนุน โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน คอยล่าตาข่าย
ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ล่าสุดพ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน นำมาโดยแผงแนวรุกอย่าง ยานนิค โบลาซี, กิลฟี ซิเกิร์ดส์สัน และ เวย์น รูนีย์ ทำเกมให้ เจ้าหนู โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูอิน ศูนย์หน้าตัวเป้าคอยปิดบัญชี
นาทีที่ 27 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะ โจ โกเมซ วางบอลยาวจากทางขวาเข้าในเขตโทษให้ เจมส์ มิลเนอร์ ได้วอลเลย์ด้วยขวาบอลเฉี่่ยวเสาออกไป
นาทีที่ 35 หงส์แดงมาได้จุดโทษจากจังหวะ เมสัน โฮลเกท แนวรับดาวรุ่งทีมเยือนไปดึง อดัม ลัลลานา ล้มลงในเขตโทษ ก่อน เจมส์ มิลเนอร์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไป เจ้าบ้านออกนำ 1-0
ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมในสนามมีจังหวะเดือดขึ้น เมื่อ เมสัน โฮลเกท เล่นนอกเกม ไปผลัก โรแบร์โต้ ฟีร์นิโน จนกระเด็นออกไปโดนที่กั้นคนดู ก่อน ฟีร์มิโน จะวิ่งเข้ามาเอาเรื่องจนเกมต้องหยุดชะงักชั่วครู่ ก่อน จบ 45 นาที ลิเวอร์พูล 0 เอฟเวอร์ตัน 0
นาทีที่ 54 เจ้าบ้านน่าได้ประตูที่สองจากจังหวะเปิดลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ โยนเข้ามาถึง โจ โกเมซ ได้ยืนโขกโล่งๆที่เสาสอง แต่ผิดเหลี่ยมออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 59 เร้ด แมชชีน ได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน โยกหลอก ยานนิค โบลาซี ที่ลงมาช่วยเกมรับในเขตโทษ ก่อนซัดเต็มข้อด้วยซ้ายอัดที่เสาแรก แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยังยืนตำแหน่งดีปัดออกมาได้
4 นาทีถัดมาโอกาสยังเป็นของหงส์แดง เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกเลดซ์-แชมเบอร์เลน เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวาเข้ามาให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้โขกเต็มๆ แต่บอลไปตรงตัว พิคฟอร์ด สกอร์ยัง 1-0
แต่นาทีที่ 67 ทอฟฟี่ มาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะโต้กลับลูกเตะมุม โบลาซี ฉกบอลได้ก่อนจ่ายยาวออกทางซ้ายให้ อเดโมลา ลุคแมน กองหน้าดาวรุ่งที่ลงมาแทน รูนีย์ ได้ใช้ความเร็วกระชากเข้ากลางก่อนแทงออกทางขวาให้ ฟีล จากีลก้า ที่วิ่งเติมขึ้นมารอจังหวะล็อคหลอกก่อนคืนกลับมาให้ ซิเกิร์ดส์สัน ได้วิ่งมาแปเน้นๆบอลเสียบเสาเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
นาทีที่ 85 หงส์แดงได้เฮลั่นเมื่อ อ็อกเลดซ์-แชมเบอร์เลน เปิดเตะมุมจากทางฝั่งซ้ายให้ เaอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้ขึ้นโขกสวนตัว พิคฟอร์ด ที่ออกมาชกบอลไม่โดน เป็นประตูให้เจ้าบ้านนำอีกรอบ 2-1
จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือน เอฟเวอร์ตัน 2-1 ทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย หรือรอบ 4 ได้สำเร็จ
Cr:goal.com
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ