เสียใครเสียได้ ห้ามเสีย JK
Tue 09 Jan 2018, 16:14
ข่าวใหญ่ในสัปดาห์ที่ไม่มีพรีเมียร์ลีกเตะทำให้การแถลงย้ายไปบาร์เซโลน่าของ เฟลิปเป้ คูตินโญ่ ด้วยค่าตัวสถิติโลกเป็นอันดับ 3 ด้วยวงเงิน 142 ล้านปอนด์ ยิ่งทวีคูณแรงกระเพื่อมจนผลการแข่งขันเอฟเอ คัพที่เงียบอยู่แล้วเปรียบเสมือนกระดาษรองไส้ซาลาเปา ที่แค่บรรจงแกะเบาๆก็หลุดเป็นเศษขยะอย่างรวดเร็ว
ว่ากันตามตรงผมเชื่อว่าเดอะ ค็อปทำใจเสีย”คูตี้”ไว้ล่วงหน้าแล้วแต่ส่วนใหญ่มองไปถึงซัมเมอร์มากกว่ารวมถึงเมื่อพิจารณาจากจุดยืนที่หนักแน่นมากที่สุดดีลหนึ่งของ”หงส์แดง”เมื่อตลาดรอบที่แล้วดังนั้นไม่ว่าบาร์ซ่าหรือตัวนักเตะเองคงไม่มีใครกล้างัดโดยรู้เต็มอกว่าคูตินโญ่มีสัญญารั้งอยู่ 4 ปี
ส่วนตัวผมก็มองว่าแข้งบราซิเลี่ยนที่จะอายุเต็ม 26 ปีในวันที่ 12 มิถุนายนที่จะถึงนี้คงหาทางลงสวยๆคือย้ายซัมเมอร์เนื่องจากลิเวอร์พูลเข้ารอบน็อกเอาท์แชมเปี้ยนส์ลีก และ กำลังไปได้สวยในลีกที่ไต่มาเกาะอันดับ 4 ได้แน่นหนึบพร้อมสถิติไร้พ่ายในทุกรายการ 17 นัด
โบกมือไปแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง เหมือนหลุยส์ ซัวเรซ สโมสรมีเวลาหาตัวแทน 2-3 เดือน มีเวลาปรีซีซั่นให้ปรับตัว ไม่ใช่งอแงย้ายในวันเดดไลน์จนเกิดดีล panic buy
จึงไม่แปลกใจครับที่ผลงานทีมกำลังมาขนาดนี้แต่”คูตี้”เลือกย้าย ข่าวเผาเสื้อจากเดอะ ค็อปจึงตามมา
คำให้สัมภาษณ์ของเยอร์เก้น คล็อปป์ บอกไว้หมดแล้วนะครับว่าใจของนักเตะและครอบครัวเดินทางไปอยู่ที่บาร์ซ่าเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ซัมเมอร์ ดังนั้นการสกัดกั้น”dream move” เป็นหน 2 จึงไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้าถึงขนาดไม่ยอมเล่นใน CL อีกเลยเพื่อรับประกันว่าจะไม่แห้วไปบาร์ซ่าคงต้องยอมใจแล้วล่ะครับ
เฟร์นานโด ตอร์เรสเลือกย้ายไปเชลซีแบบสายฟ้าแล่บเพราะ ณ ตอนนั้นสภาพของ”หงส์แดง”เน่ามากครับ มีปัญหาเรื่องเจ้าของสโมสรปลิงมะกัน ขุมกำลังก็ดูไม่จืด ต้องมาเริ่มสร้างทีมกันใหม่ แข้งระดับเอล นินโญ่ที่มาพร้อมโปรเจคครองยุโรปของราฟาจึงมองว่าแอนฟิลด์ไม่ใช่ที่ของเขาอีกต่อไป
ในรายของซัวเรซ และ คูตี้ อาจจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวกับข้างต้นทั้งหมด ใช่ครับนักเตะ”ละติน” มองถึงการย้ายไปเล่นในสเปนกันเกือบทุกรายครับ นอกจากสภาพอากาศที่คนละโลกกับอังกฤษแล้วใครบ้างล่ะครับไม่อยากไปเล่นในอ่างยักษ์นับแสนที่คัมป์นูกับลีโอเนล เมสซี่
รวมถึงเรายังไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังกับการขู่”take it or leave it” “ไม่ย้ายตอนนี้ก็อย่าหวังอีก” จริงเท็จแค่ไหน ล่กสิครับแบบนี้
ผมเชื่อว่ากระแสจากเดอะ ค็อปน่าจะแตกเป็น 2 กลุ่มแต่กลุ่มต่อต้าน”คูตี้” ผมว่าน่าจะน้อยกว่าในปริมาณที่เยอะพอสมควร เพราะยามที่ได้ลงสนาม”พ่อมดน้อย”เล่นใหญ่จัดใหญ่ ยิงประตู+แอสซิสต์ได้ตามมาตรฐานชายแซมบ้าและทิ้งกำไรกว่า 10 เท่าจากที่เคยซื้อมาเมื่อปี 2013 แค่ 8.5 ล้านปอนด์
ประเด็นต่อมาที่น่าจะค่อยๆมากลบกระแส”คูตี้” คือใครจะมาแทนในตลาดหนาวนี้ ซึ่งตอนนี้ที่มาแรงที่สุดคือโธมัส เลอมาร์ ของโมนาโก แต่ไม่ง่ายครับเพราะทีมนี้มีนโยบายไม่ปล่อยนักเตะออกกลางซีซั่น
แม้ลึกๆแล้วผมอยากเห็นเลอมาร์ย้ายช่วงซัมเมอร์ และ ริยาร์ด มาห์เรซ เป็นตัวตอบโจทย์ที่ใกล้เคียงทั้งหมดคือไม่ต้องปรับตัวอะไรอีก รวมถึงที่สำคัญไม่ติด cup tie แชมเปี้ยนส์ลีก(ในราคา 40 ล้านปอนด์ที่ถือว่าถูกมากในตลาดตอนนี้) ถ้าลิเวอร์พูลต้องการเข้ารอบให้ลึกที่สุดต้องมีตัวสร้างสรรค์เกมตรงกลางครับ ไม่งั้นแสนสาหัส(ดูได้จากเกมพบเอฟเวอร์ตัน)
มาห์เรซ ผมเห็นตอนเตะกับหงส์ล่าสุดแกแอบหุบมายืนกลางเล่นน่ากลัวมาก แกมีสิ่งที่คล้าย”คูตี้”คือวิชั่นเกมรุก และจมูกไวครับ พวกเพลย์เมคเกอร์จะมีนิมิตรในหัวล่วงหน้า เห็นอะไรนิดหน่อยที่เป็นโอกาสจะจ่ายจะวางยาว แทนได้แน่นอนครับมั่นใจ
ที่สำคัญสามารถสลับตำแหน่งไปเล่นแทนโม ซาลาห์ตรงปีกขวา และให้แข้งยอดเยี่ยมแอฟฟริกันไปเล่นหน้าเป้าพร้อมถอยโรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่มายืนตำแหน่งคูตี้ได้
แต่จากที่ตามอ่านข่าวนอกมากระแส”มาห์เรซ” อ่อนแรงไปมีแต่ เลอมาร์ เท่านั้นครับที่ JK จริงจังเหมือนที่ตามเกี่ยว VVD มาทั้งปี
ผมยังเชื่อลึกๆครับว่าการจะทำให้แฟนหาย”ใจเสีย” และ “ตื่นตระหนก” กับการเสียสตาร์หมายเลขหนึ่งไปคือต้องมีตัวแทนในเดือนนี้เลยครับ รอซัมเมอร์ไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นผมว่าเป้าหมายที่วางไว้อาจจะจบง่ายๆเลย แต่ยังพอมองในแง่ดีได้จากดีล VVD ที่สโมสรค่อนข้างเอาจริงกับการประเคนทุกอย่างให้บอส อยู่ที่ว่าตัวเลขที่เท่าไหร่จะง้างปากโมนาโกให้ยอมคายเลอมาร์เท่านั้นเอง
ผมยอมรับว่าเป็นคนอีโก้สูง นักเตะย้ายมาแล้วก็ย้ายไป ดีใจบอบช้ำมา 30 กว่าปี จะดังไม่ดังถ้าไม่อยากสวมชุด”หงส์แดง” ก็จบๆกันไป ไม่ถึงกับตามสาปแช่ง และ ก็ไม่ถึงกับเอาใจช่วย แค่พยักหน้าพึมพำในใจ ”well done” ยามเห็นยิงประตู หรือ ได้แชมป์กับทีมอื่น แล้วก็สไลด์หนอนสไลด์มือถือดูภาพสวยงามในเฟสบุคต่อตามปกติก็แค่นั้น
ถึงตอนนี้สิ่งที่ลิเวอร์พูลควรระวังให้มากคือการเลือกซื้อนักเตะละตินเพราะธรรมชาติ”หงส์แดง”ปั้นตัวรุกเก่งอยู่แล้ว บทส่ง แคแรคเตอร์ให้ บาร์ซ่าจึงใช้บริการบ่อยพอๆกับที่เรา(ขออนุญาตเรียกว่าเรา) เป็นลูกค้าชั้นดีกับเซาแธมป์ตันจนถึงขั้นได้กิฟวอเชอร์
และถึงไม่ใช่นักเตะ”ละติน” จะชาติไหนๆ นับจากนี้ถ้าไม่อยากสมองไหล”หงส์แดง” ควรต้องโต และ วิ่งไม่ให้ห่างจากบรรดา top team ทั้งของอังกฤษ และ ยุโรปมากเหมือนหลายปีที่ผ่านมา
เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณแค่ ”เดิน” คนอื่นเขา “วิ่ง” ระยะทางมันจะห่างไปเรื่อยๆ คนที่จะมาร่วมวงกิจกรรมกับคุณเค้าดูออก เค้าเลือกเป็น
ซึ่งนับตั้งแต่ JK เข้ามาเป็นบอสใหญ่ในรังแอนฟิลด์เมื่อเดือนตุลาคม 2015 ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด เริ่มจากการให้โอกาสนักเตะที่มีอยู่เพื่อดูว่าใครรอดหรือไม่รอด ก่อนเชือดออกทีละคน จนเป็นรูปเป็นร่างในเกมรุก และซัมเมอร์หน้ากำลังจะตามเก็บกลาง โดยที่แนวรับได้ VVD มาสร้างความสมดุลก่อนแล้ว
ผมยังยืนหยัดตามเดิมกับผู้จัดการทีมใหม่ทุกคนครับ ให้เวลาสร้างทีมดังวลี 1 ปีซ่อม 1 ปีสร้าง 1 ปีซิ่ง โดยที่ปีแรกผมขอวิสาสะตัดทิ้งไม่นับเพราะแกไม่ได้เสริมอะไรเลยแต่ก็ยังพาทีมเข้าชิง 2 ถ้วย ซึ่งน่าตลกที่เคยมีแฟนบอลจำนวนมากขับไล่จะเปลี่ยนโค้ซกันซะงั้น
ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า”หงส์”ในมือ JK ณ ยามนี้ดูมีอนาคตมากกว่าคนไหนๆ การได้โค้ชระดับนี้ แคเรคเตอร์+เคมีเข้ากันอย่างลงตัว หาไม่ได้ง่ายๆ เหลือรอเวลาให้แกปรับแต่งอะไรอีกนิดหน่อยเราจะได้เห็นลิเวอร์พูลที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปีด้วยซ้ำ
เมื่อทีมมีอนาคต “ทีมใหญ่”กว่า “นักเตะ” โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์สมองไหลก็ย่อมน้อยตามลงไป
ตอนนี้เสียใครเสียได้ ห้ามเสีย JK เด็ดขาด...
Cr:soccersuck.com
ว่ากันตามตรงผมเชื่อว่าเดอะ ค็อปทำใจเสีย”คูตี้”ไว้ล่วงหน้าแล้วแต่ส่วนใหญ่มองไปถึงซัมเมอร์มากกว่ารวมถึงเมื่อพิจารณาจากจุดยืนที่หนักแน่นมากที่สุดดีลหนึ่งของ”หงส์แดง”เมื่อตลาดรอบที่แล้วดังนั้นไม่ว่าบาร์ซ่าหรือตัวนักเตะเองคงไม่มีใครกล้างัดโดยรู้เต็มอกว่าคูตินโญ่มีสัญญารั้งอยู่ 4 ปี
ส่วนตัวผมก็มองว่าแข้งบราซิเลี่ยนที่จะอายุเต็ม 26 ปีในวันที่ 12 มิถุนายนที่จะถึงนี้คงหาทางลงสวยๆคือย้ายซัมเมอร์เนื่องจากลิเวอร์พูลเข้ารอบน็อกเอาท์แชมเปี้ยนส์ลีก และ กำลังไปได้สวยในลีกที่ไต่มาเกาะอันดับ 4 ได้แน่นหนึบพร้อมสถิติไร้พ่ายในทุกรายการ 17 นัด
โบกมือไปแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง เหมือนหลุยส์ ซัวเรซ สโมสรมีเวลาหาตัวแทน 2-3 เดือน มีเวลาปรีซีซั่นให้ปรับตัว ไม่ใช่งอแงย้ายในวันเดดไลน์จนเกิดดีล panic buy
จึงไม่แปลกใจครับที่ผลงานทีมกำลังมาขนาดนี้แต่”คูตี้”เลือกย้าย ข่าวเผาเสื้อจากเดอะ ค็อปจึงตามมา
คำให้สัมภาษณ์ของเยอร์เก้น คล็อปป์ บอกไว้หมดแล้วนะครับว่าใจของนักเตะและครอบครัวเดินทางไปอยู่ที่บาร์ซ่าเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ซัมเมอร์ ดังนั้นการสกัดกั้น”dream move” เป็นหน 2 จึงไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้าถึงขนาดไม่ยอมเล่นใน CL อีกเลยเพื่อรับประกันว่าจะไม่แห้วไปบาร์ซ่าคงต้องยอมใจแล้วล่ะครับ
เฟร์นานโด ตอร์เรสเลือกย้ายไปเชลซีแบบสายฟ้าแล่บเพราะ ณ ตอนนั้นสภาพของ”หงส์แดง”เน่ามากครับ มีปัญหาเรื่องเจ้าของสโมสรปลิงมะกัน ขุมกำลังก็ดูไม่จืด ต้องมาเริ่มสร้างทีมกันใหม่ แข้งระดับเอล นินโญ่ที่มาพร้อมโปรเจคครองยุโรปของราฟาจึงมองว่าแอนฟิลด์ไม่ใช่ที่ของเขาอีกต่อไป
ในรายของซัวเรซ และ คูตี้ อาจจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวกับข้างต้นทั้งหมด ใช่ครับนักเตะ”ละติน” มองถึงการย้ายไปเล่นในสเปนกันเกือบทุกรายครับ นอกจากสภาพอากาศที่คนละโลกกับอังกฤษแล้วใครบ้างล่ะครับไม่อยากไปเล่นในอ่างยักษ์นับแสนที่คัมป์นูกับลีโอเนล เมสซี่
รวมถึงเรายังไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังกับการขู่”take it or leave it” “ไม่ย้ายตอนนี้ก็อย่าหวังอีก” จริงเท็จแค่ไหน ล่กสิครับแบบนี้
ผมเชื่อว่ากระแสจากเดอะ ค็อปน่าจะแตกเป็น 2 กลุ่มแต่กลุ่มต่อต้าน”คูตี้” ผมว่าน่าจะน้อยกว่าในปริมาณที่เยอะพอสมควร เพราะยามที่ได้ลงสนาม”พ่อมดน้อย”เล่นใหญ่จัดใหญ่ ยิงประตู+แอสซิสต์ได้ตามมาตรฐานชายแซมบ้าและทิ้งกำไรกว่า 10 เท่าจากที่เคยซื้อมาเมื่อปี 2013 แค่ 8.5 ล้านปอนด์
ประเด็นต่อมาที่น่าจะค่อยๆมากลบกระแส”คูตี้” คือใครจะมาแทนในตลาดหนาวนี้ ซึ่งตอนนี้ที่มาแรงที่สุดคือโธมัส เลอมาร์ ของโมนาโก แต่ไม่ง่ายครับเพราะทีมนี้มีนโยบายไม่ปล่อยนักเตะออกกลางซีซั่น
แม้ลึกๆแล้วผมอยากเห็นเลอมาร์ย้ายช่วงซัมเมอร์ และ ริยาร์ด มาห์เรซ เป็นตัวตอบโจทย์ที่ใกล้เคียงทั้งหมดคือไม่ต้องปรับตัวอะไรอีก รวมถึงที่สำคัญไม่ติด cup tie แชมเปี้ยนส์ลีก(ในราคา 40 ล้านปอนด์ที่ถือว่าถูกมากในตลาดตอนนี้) ถ้าลิเวอร์พูลต้องการเข้ารอบให้ลึกที่สุดต้องมีตัวสร้างสรรค์เกมตรงกลางครับ ไม่งั้นแสนสาหัส(ดูได้จากเกมพบเอฟเวอร์ตัน)
มาห์เรซ ผมเห็นตอนเตะกับหงส์ล่าสุดแกแอบหุบมายืนกลางเล่นน่ากลัวมาก แกมีสิ่งที่คล้าย”คูตี้”คือวิชั่นเกมรุก และจมูกไวครับ พวกเพลย์เมคเกอร์จะมีนิมิตรในหัวล่วงหน้า เห็นอะไรนิดหน่อยที่เป็นโอกาสจะจ่ายจะวางยาว แทนได้แน่นอนครับมั่นใจ
ที่สำคัญสามารถสลับตำแหน่งไปเล่นแทนโม ซาลาห์ตรงปีกขวา และให้แข้งยอดเยี่ยมแอฟฟริกันไปเล่นหน้าเป้าพร้อมถอยโรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่มายืนตำแหน่งคูตี้ได้
แต่จากที่ตามอ่านข่าวนอกมากระแส”มาห์เรซ” อ่อนแรงไปมีแต่ เลอมาร์ เท่านั้นครับที่ JK จริงจังเหมือนที่ตามเกี่ยว VVD มาทั้งปี
ผมยังเชื่อลึกๆครับว่าการจะทำให้แฟนหาย”ใจเสีย” และ “ตื่นตระหนก” กับการเสียสตาร์หมายเลขหนึ่งไปคือต้องมีตัวแทนในเดือนนี้เลยครับ รอซัมเมอร์ไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นผมว่าเป้าหมายที่วางไว้อาจจะจบง่ายๆเลย แต่ยังพอมองในแง่ดีได้จากดีล VVD ที่สโมสรค่อนข้างเอาจริงกับการประเคนทุกอย่างให้บอส อยู่ที่ว่าตัวเลขที่เท่าไหร่จะง้างปากโมนาโกให้ยอมคายเลอมาร์เท่านั้นเอง
ผมยอมรับว่าเป็นคนอีโก้สูง นักเตะย้ายมาแล้วก็ย้ายไป ดีใจบอบช้ำมา 30 กว่าปี จะดังไม่ดังถ้าไม่อยากสวมชุด”หงส์แดง” ก็จบๆกันไป ไม่ถึงกับตามสาปแช่ง และ ก็ไม่ถึงกับเอาใจช่วย แค่พยักหน้าพึมพำในใจ ”well done” ยามเห็นยิงประตู หรือ ได้แชมป์กับทีมอื่น แล้วก็สไลด์หนอนสไลด์มือถือดูภาพสวยงามในเฟสบุคต่อตามปกติก็แค่นั้น
ถึงตอนนี้สิ่งที่ลิเวอร์พูลควรระวังให้มากคือการเลือกซื้อนักเตะละตินเพราะธรรมชาติ”หงส์แดง”ปั้นตัวรุกเก่งอยู่แล้ว บทส่ง แคแรคเตอร์ให้ บาร์ซ่าจึงใช้บริการบ่อยพอๆกับที่เรา(ขออนุญาตเรียกว่าเรา) เป็นลูกค้าชั้นดีกับเซาแธมป์ตันจนถึงขั้นได้กิฟวอเชอร์
และถึงไม่ใช่นักเตะ”ละติน” จะชาติไหนๆ นับจากนี้ถ้าไม่อยากสมองไหล”หงส์แดง” ควรต้องโต และ วิ่งไม่ให้ห่างจากบรรดา top team ทั้งของอังกฤษ และ ยุโรปมากเหมือนหลายปีที่ผ่านมา
เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณแค่ ”เดิน” คนอื่นเขา “วิ่ง” ระยะทางมันจะห่างไปเรื่อยๆ คนที่จะมาร่วมวงกิจกรรมกับคุณเค้าดูออก เค้าเลือกเป็น
ซึ่งนับตั้งแต่ JK เข้ามาเป็นบอสใหญ่ในรังแอนฟิลด์เมื่อเดือนตุลาคม 2015 ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด เริ่มจากการให้โอกาสนักเตะที่มีอยู่เพื่อดูว่าใครรอดหรือไม่รอด ก่อนเชือดออกทีละคน จนเป็นรูปเป็นร่างในเกมรุก และซัมเมอร์หน้ากำลังจะตามเก็บกลาง โดยที่แนวรับได้ VVD มาสร้างความสมดุลก่อนแล้ว
ผมยังยืนหยัดตามเดิมกับผู้จัดการทีมใหม่ทุกคนครับ ให้เวลาสร้างทีมดังวลี 1 ปีซ่อม 1 ปีสร้าง 1 ปีซิ่ง โดยที่ปีแรกผมขอวิสาสะตัดทิ้งไม่นับเพราะแกไม่ได้เสริมอะไรเลยแต่ก็ยังพาทีมเข้าชิง 2 ถ้วย ซึ่งน่าตลกที่เคยมีแฟนบอลจำนวนมากขับไล่จะเปลี่ยนโค้ซกันซะงั้น
ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า”หงส์”ในมือ JK ณ ยามนี้ดูมีอนาคตมากกว่าคนไหนๆ การได้โค้ชระดับนี้ แคเรคเตอร์+เคมีเข้ากันอย่างลงตัว หาไม่ได้ง่ายๆ เหลือรอเวลาให้แกปรับแต่งอะไรอีกนิดหน่อยเราจะได้เห็นลิเวอร์พูลที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปีด้วยซ้ำ
เมื่อทีมมีอนาคต “ทีมใหญ่”กว่า “นักเตะ” โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์สมองไหลก็ย่อมน้อยตามลงไป
ตอนนี้เสียใครเสียได้ ห้ามเสีย JK เด็ดขาด...
Cr:soccersuck.com
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ