หยุดไร้พ่าย 22 เกมส์!! หงส์ถอนแค้นเรือ เฉือนหวิว 4-3
Mon 15 Jan 2018, 01:14
แม้ต้องลุ้นในช่วงท้ายเกมแต่หงส์แดงก็ชำระแค้นทีมจ่าฝูงได้สำเร็จ และเปฺ็นทีมแรกที่สามารถหยุดสถิติไร้พ่ายเกมลีกของซิตี้ในฤดูกาลนี้ไว้ที่ 22 เกม
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 23 คู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง ลิเวอร์พูล อันดับ 4 เปิดถิ่น แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง
หงส์แดง ฟอร์มกำลังดีคว้าชัยมา 4 เกมติด ล่าสุด เขี่ย เอฟเวอร์ตัน ตกรอบเอฟเอ คัพ 2-1 เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องขาด เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่มีอาการบาดเจ็บ และจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดยแผงแนวรุกอย่าง อเล็กซ์-อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ,โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน ปั้นเกมให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน หัวหอกคอยล่าตาข่าย
เรือใบสีฟ้า ฟอร์มดีไม่แพ้กัน ชนะรวดมา 3 เกมติด และยังไม่แพ้ในลีกเลย ล่าสุดเอาชนะ บริสตอล ซิตี้ ในเกมรอบตัดเชือกนัดแรกเกมคาราบาว คัพ เกมนี้ เป็ป กวาร์ดิโอลา กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย ราฮีม สเตอร์ลิง และ เลรอย ซาเน สนับสนุน เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าคอยจบสกอร์
นาทีที่ 9 หงส์แดงได้เฮลั่น เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน เก็บบอลได้ในแดน ซิตี้ ก่อนลากมาหน้าเขตโทษและซัดเลียดด้วยขวาบอลพุ่งเสียเสาเขาไปอย่างเฉียบขาด เอแดร์สัน หมดสิทธิ์เซฟ เจ้าบ้านออกนำ 1-0
นาทีที่ 31 ทีมเรือใบต้องเสีย ฟาเบียน เดลฟ์ แบ็คซ้าย จากอาการบาดเจ็บ และเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ดานิโล ลงมาเล่นแทน
4 นาทีต่อมา เป็นทางทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลองซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบแนวรับเจ้าบ้าน แต่บอลไม่เปลี่ยนทาง ลอริส คาริอุส ล้มตัวรับไว้ได้สบาย
นาทีที่ 39 เป็นโอกาสของ เร้ด แมชชีน อีกครั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนลองปั้นด้วยซ้าย บอลเลี้ยว เข้ามือ เอแดร์สัน รับสบาย
แต่ 2 นาทีถัดมากลายเป็น เดอะ ซิตี้เซนส์ ที่มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ วางบอลยาวจากทางขวาของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ข้ามมาถึง เลรอย ซาเน พักบอลลงก่อนจี้เข้าเขตโทษ กระชากออกซ้ายและยิงที่เสาแรกผ่านมือ ลอริส คาริอุส เป็นประตู สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
เกมครึ่งแรกเป็นทางเจ้าบ้านที่ได้ครองบอลบุกมากกว่า แต่ทีมเยือนกลับมาได้ประตูตีเสมอแม้โอกาสยิงน้อยกว่า จบ 45 นาที ลิเวอร์พูล 0 แมนฯ ซิตี้ 0
นาทีที่ 51 ทีมเยือนได้โอกาสแซงนำ จากจังหวะเล่นลูกเตะมุม เควิน เดอ บรอยน์ โยนเข้ามาในเขตโทษ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ได้โขกบอลย้อยชนคานอย่างจัง
5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้สวนคืนบ้าง จากลูกเตะมุม อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน โยนเข้ามาในเขตโทษ เอแดร์สัน ออกมาชกบอลไปเข้าทาง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ได้ซัดด้วยซ้าย แต่ เอแดร์สัน ยังทบออกมาได้
นาทีที่ 59 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูแซงนำอีกครั้ง เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน พาบอลขึ้นมาก่อนแทงทะลุช่องให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน เบียดกระแทก จอห์น สโตนส์ ก่อนชิงบอลและปั่นด้วยขวาเบาๆ บอลชนเสาเข้าไป เร้ด แมชชีนนำ 2-1
นาทีที่ 61 เจ้าบ้านได้ประตูนำห่างจากจังหวะ เปิดบอลพลาดของ โอตาเมนดี้ ไปติด ซาลาห์ และพาบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนไหลให้ ซาดิโอ มาเน ได้ตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามเจ้าบ้านนำ 3-1
นาทีที่ 68 หงส์แดงมาได้ประตูเพิ้ม จากจังหวะ เอแดร์สัน นายด่านออกมาเคลียร์บอลพลาดไปติด ซาลาห์ ก่อนจะยิงสวนคืนเกือบครึ่งสนามเป็นประตู เจ้าถิ่นนำ 3-1
นาทีที่ 84 ซิตี้ได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 เมื่อ อิลคาย กุนโดกัน พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ เซร์คิโอ อเกวโร ยิงไปติดบล็อคในเขตโทษ บอลมาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตัวสำรองที่ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดด้วยซ้ายเข้าไป
ช่วงทดเจ็บ เลรอย ซาเน พาบอลเข้ามาให้ อเกวโร ในเขตโทษ ก่อนจะเปิดเข้ามาให้ อิลคาย กุนโดกัน พักอกและยิงเข้าไปง่ายๆ แต่ทีมเยือนก็ไล่ไม่ทัน จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-3 เก็บ 3 แต้ม แข่ง 23 มี 47 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง ส่วน ซิตี้ แพ้ในลีกเป็นเกมแรก แข่ง 23 นัด มี 62 คะแนนยังครองจ่าฝูงต่อไป
Cr:goal.com
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 23 คู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง ลิเวอร์พูล อันดับ 4 เปิดถิ่น แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง
หงส์แดง ฟอร์มกำลังดีคว้าชัยมา 4 เกมติด ล่าสุด เขี่ย เอฟเวอร์ตัน ตกรอบเอฟเอ คัพ 2-1 เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องขาด เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่มีอาการบาดเจ็บ และจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 นำมาโดยแผงแนวรุกอย่าง อเล็กซ์-อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ,โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน ปั้นเกมให้กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน หัวหอกคอยล่าตาข่าย
เรือใบสีฟ้า ฟอร์มดีไม่แพ้กัน ชนะรวดมา 3 เกมติด และยังไม่แพ้ในลีกเลย ล่าสุดเอาชนะ บริสตอล ซิตี้ ในเกมรอบตัดเชือกนัดแรกเกมคาราบาว คัพ เกมนี้ เป็ป กวาร์ดิโอลา กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย ราฮีม สเตอร์ลิง และ เลรอย ซาเน สนับสนุน เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าคอยจบสกอร์
นาทีที่ 9 หงส์แดงได้เฮลั่น เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน เก็บบอลได้ในแดน ซิตี้ ก่อนลากมาหน้าเขตโทษและซัดเลียดด้วยขวาบอลพุ่งเสียเสาเขาไปอย่างเฉียบขาด เอแดร์สัน หมดสิทธิ์เซฟ เจ้าบ้านออกนำ 1-0
นาทีที่ 31 ทีมเรือใบต้องเสีย ฟาเบียน เดลฟ์ แบ็คซ้าย จากอาการบาดเจ็บ และเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ดานิโล ลงมาเล่นแทน
4 นาทีต่อมา เป็นทางทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลองซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบแนวรับเจ้าบ้าน แต่บอลไม่เปลี่ยนทาง ลอริส คาริอุส ล้มตัวรับไว้ได้สบาย
นาทีที่ 39 เป็นโอกาสของ เร้ด แมชชีน อีกครั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนลองปั้นด้วยซ้าย บอลเลี้ยว เข้ามือ เอแดร์สัน รับสบาย
แต่ 2 นาทีถัดมากลายเป็น เดอะ ซิตี้เซนส์ ที่มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะ วางบอลยาวจากทางขวาของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ข้ามมาถึง เลรอย ซาเน พักบอลลงก่อนจี้เข้าเขตโทษ กระชากออกซ้ายและยิงที่เสาแรกผ่านมือ ลอริส คาริอุส เป็นประตู สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
เกมครึ่งแรกเป็นทางเจ้าบ้านที่ได้ครองบอลบุกมากกว่า แต่ทีมเยือนกลับมาได้ประตูตีเสมอแม้โอกาสยิงน้อยกว่า จบ 45 นาที ลิเวอร์พูล 0 แมนฯ ซิตี้ 0
นาทีที่ 51 ทีมเยือนได้โอกาสแซงนำ จากจังหวะเล่นลูกเตะมุม เควิน เดอ บรอยน์ โยนเข้ามาในเขตโทษ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ได้โขกบอลย้อยชนคานอย่างจัง
5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านได้สวนคืนบ้าง จากลูกเตะมุม อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน โยนเข้ามาในเขตโทษ เอแดร์สัน ออกมาชกบอลไปเข้าทาง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ได้ซัดด้วยซ้าย แต่ เอแดร์สัน ยังทบออกมาได้
นาทีที่ 59 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูแซงนำอีกครั้ง เมื่อ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน พาบอลขึ้นมาก่อนแทงทะลุช่องให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน เบียดกระแทก จอห์น สโตนส์ ก่อนชิงบอลและปั่นด้วยขวาเบาๆ บอลชนเสาเข้าไป เร้ด แมชชีนนำ 2-1
นาทีที่ 61 เจ้าบ้านได้ประตูนำห่างจากจังหวะ เปิดบอลพลาดของ โอตาเมนดี้ ไปติด ซาลาห์ และพาบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนไหลให้ ซาดิโอ มาเน ได้ตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามเจ้าบ้านนำ 3-1
นาทีที่ 68 หงส์แดงมาได้ประตูเพิ้ม จากจังหวะ เอแดร์สัน นายด่านออกมาเคลียร์บอลพลาดไปติด ซาลาห์ ก่อนจะยิงสวนคืนเกือบครึ่งสนามเป็นประตู เจ้าถิ่นนำ 3-1
นาทีที่ 84 ซิตี้ได้ประตูไล่มาเป็น 2-4 เมื่อ อิลคาย กุนโดกัน พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายให้ เซร์คิโอ อเกวโร ยิงไปติดบล็อคในเขตโทษ บอลมาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตัวสำรองที่ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดด้วยซ้ายเข้าไป
ช่วงทดเจ็บ เลรอย ซาเน พาบอลเข้ามาให้ อเกวโร ในเขตโทษ ก่อนจะเปิดเข้ามาให้ อิลคาย กุนโดกัน พักอกและยิงเข้าไปง่ายๆ แต่ทีมเยือนก็ไล่ไม่ทัน จบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-3 เก็บ 3 แต้ม แข่ง 23 มี 47 คะแนนเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง ส่วน ซิตี้ แพ้ในลีกเป็นเกมแรก แข่ง 23 นัด มี 62 คะแนนยังครองจ่าฝูงต่อไป
Cr:goal.com
- เจ้าเก่าSirMosalaเหรียญสำหรับแฟนพันธุแท้โมซาลา
- Post : 94
Like : 11
Points : 11
Join : 10/11/2017
Power :
Re: หยุดไร้พ่าย 22 เกมส์!! หงส์ถอนแค้นเรือ เฉือนหวิว 4-3
Mon 15 Jan 2018, 23:22
เป็นนัดที่ยอดเยี่ยมอีกเกมส์หนึ่ง สุดๆไปเลย
Sent from Topic'it App
Sent from Topic'it App
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ