เมาหมัดไม่หาย!!หงส์น๊อคซ้ำพ่ายมวยโลก 2-3
Sun 28 Jan 2018, 09:37
หงส์แดงยังไม่ฟื้นพ่ายทีมท้ายตารางพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่สองติดต่อกัน แต่คราวนี้ส่งผลให้ตกรอบ 32 เอฟเอ คัพ
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 หรือ รอบ 32 ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล อันดับ 4 พรีเมียร์ลีก เปิดถิ่น แอนด์ฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 19 พรีเมียร์ลีก
หงส์แดง ล่าสุดเพิ่งพ่าย สวอนซี ซิตี้ ทีมบ๊วยของตารางมา 1-0 เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดชุดใหญ่มาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน เป็นสามประสานในแนวรุกคอยผลิตสกอร์
เดอะ แบ็กกี้ส์ ยันเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 มาในเกมล่าสุด นัดนี้ อลัน พาร์ดิว เทรนเนอร์ วางหมากมาในระบบ 4-4-2 นำมาโดย เจค ลิเวอร์มอร์ และ คริส บรันท์ เป็นตัวริมเส้นซ้าย-ขวาปั้นเกมให้กับ ฮัล ร็อบสัน คานู และ เจย์ โรดริเกวซ คู่หัวหอก
เริ่มเกมเพียง 6 นาที เจ้าบ้านได้เฮลั่น จากจังหวะความผิดพลาดของ จอห์นนี อีแวนส์ และ เบน ฟอร์สเตอร์ กักกันเล่นบอล ก่อน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะวิ่งแซงมายิงไปติดเซฟ ฟอร์สเตอร์ ในจังหวะแรก บอลเด้งมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ได้ชิพจากนอกเขตโทษบอลย้อยเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างเหนือชั้น
แต่นาทีถัดมาทีมเยือนมาได้ประตูตีเสมอแบบทันควัน จากจังหวะ คริส บรันท์ ฉกบอลจากผู้เล่นหงส์แดงได้ ก่อนไหลบอลสั้นๆให้กับ เจย์ โรดริเกวซ ในเขตโทษได้วางเท้ายิงด้วยขวาบอลติดไซด์ก้อยบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
จากนั้นนาทีที่ 11 กลายเป็นเดอะ แบ็กกี้ส์ มาได้ประตูแซงนำจากจังหวะ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค พาบอลตะลุยขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแทงออกทางซ้ายให้ คีแรน กิบบ์ส ที่เติมเกมรุกปาดกลับเข้ามาในเขตโทษให้ เจย์ โรดริเกวซ แปโล่งๆเข้าไป ซิมง มิโญเลต์ หมดสิทธิ์เซฟ ทีมเยือนบุกมานำ 2-1
นาทีที่ 19 เวสต์บรอม ยิงประตูจากลูกโหม่งลูกเตะมุมของ เคร็ก ดอว์สัน แต่ผู้ตัดสินใช้ VAR และไม่ให้ประตู หลังมีการล้ำหน้าเกิดขึ้น
นาทีที่ 27 หงส์แดงมาได้ลูกโทษที่จุดโทษ จากจังหวะ เจค ลิเวอร์มอร์ ดึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เห็ฯในจังหวะแรก ก่อนจะขอดู VAR และเป่าให้เป็นการฟาวล์ แต่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ยิงไปชนสามเหลี่ยม สกอร์ยังเท่าเดิม
นาทีที่ 37 ทีมเยือนต้องเสีย ฮัล ร็อบสัน-คานู กองหน้า และ คีแรน กิบบ์ส แบ็คซ้ายจากอาการบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนเอา แมตต์ ฟิลิปป์ส และ อาห์เหม็ด เฮกาซี ลงมาเล่นแทนตามลำดับ
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เวสต์บรอม มาได้ประตูนำห่างเป็น 3-1 จากจังหวะ เคร็ก ดอว์สัน รับบอลโด่งในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนหวดด้วยขวากึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตู แต่ โจเอล มาติป แนวรับหงส์แดงสกัดไม่ดีบอลเข้าประตูเป็นหารทำเข้าประตูตัวเอง พร้อมจบ 45 นาที
นาทีที่ 75 เดอะ เรดส์ บุกหนัก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน แทงบอลออกทางซ้ายให้ แดนนี อิงส์ หัวหอกตัวสำรองที่ลงมาแทน เอ็มเร ชาน ก่อนได้ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาไปติดเซฟ เบน ฟอร์สเตอร์ บอลกระดอนออกมาเข้าทาง เจมส์ มิลเนอร์ ตัวสำรองที่ ลงมาแทน อเล็กซ์ อ็อกเลดซ์ แชมเบอร์เลน ยิงซ้ำด้วยขวา แต่ฟอร์สเตอร์ ยังกระโดดตามมาใช้ขาเซฟได้
3 นาทีต่อมา เจ้าบ้านมาได้ประตูจุดความหวัง เมื่อ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้จ่ายบอลยัดเข้ามาในเขตโทษให้ ฟีร์มิโน จับบอลไม่อยู่ แต่กลายเป็นดีมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงสวนด้วยซ้ายเข้าไป ไล่มาเป็น 2-3
เกมครึ่งหลัง แม้ เรด แมชชีน จะทำเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรรับที่มีระเบียบวินัยได้ จบ 90 ลิเวอร์พูล แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-3 ตกรอบ 4 หรือรอบ 32 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ
Cr:goal.com
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 หรือ รอบ 32 ทีมสุดท้าย คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล อันดับ 4 พรีเมียร์ลีก เปิดถิ่น แอนด์ฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 19 พรีเมียร์ลีก
หงส์แดง ล่าสุดเพิ่งพ่าย สวอนซี ซิตี้ ทีมบ๊วยของตารางมา 1-0 เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดชุดใหญ่มาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน เป็นสามประสานในแนวรุกคอยผลิตสกอร์
เดอะ แบ็กกี้ส์ ยันเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 มาในเกมล่าสุด นัดนี้ อลัน พาร์ดิว เทรนเนอร์ วางหมากมาในระบบ 4-4-2 นำมาโดย เจค ลิเวอร์มอร์ และ คริส บรันท์ เป็นตัวริมเส้นซ้าย-ขวาปั้นเกมให้กับ ฮัล ร็อบสัน คานู และ เจย์ โรดริเกวซ คู่หัวหอก
เริ่มเกมเพียง 6 นาที เจ้าบ้านได้เฮลั่น จากจังหวะความผิดพลาดของ จอห์นนี อีแวนส์ และ เบน ฟอร์สเตอร์ กักกันเล่นบอล ก่อน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะวิ่งแซงมายิงไปติดเซฟ ฟอร์สเตอร์ ในจังหวะแรก บอลเด้งมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ได้ชิพจากนอกเขตโทษบอลย้อยเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างเหนือชั้น
แต่นาทีถัดมาทีมเยือนมาได้ประตูตีเสมอแบบทันควัน จากจังหวะ คริส บรันท์ ฉกบอลจากผู้เล่นหงส์แดงได้ ก่อนไหลบอลสั้นๆให้กับ เจย์ โรดริเกวซ ในเขตโทษได้วางเท้ายิงด้วยขวาบอลติดไซด์ก้อยบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
จากนั้นนาทีที่ 11 กลายเป็นเดอะ แบ็กกี้ส์ มาได้ประตูแซงนำจากจังหวะ เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค พาบอลตะลุยขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแทงออกทางซ้ายให้ คีแรน กิบบ์ส ที่เติมเกมรุกปาดกลับเข้ามาในเขตโทษให้ เจย์ โรดริเกวซ แปโล่งๆเข้าไป ซิมง มิโญเลต์ หมดสิทธิ์เซฟ ทีมเยือนบุกมานำ 2-1
นาทีที่ 19 เวสต์บรอม ยิงประตูจากลูกโหม่งลูกเตะมุมของ เคร็ก ดอว์สัน แต่ผู้ตัดสินใช้ VAR และไม่ให้ประตู หลังมีการล้ำหน้าเกิดขึ้น
นาทีที่ 27 หงส์แดงมาได้ลูกโทษที่จุดโทษ จากจังหวะ เจค ลิเวอร์มอร์ ดึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เห็ฯในจังหวะแรก ก่อนจะขอดู VAR และเป่าให้เป็นการฟาวล์ แต่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ยิงไปชนสามเหลี่ยม สกอร์ยังเท่าเดิม
นาทีที่ 37 ทีมเยือนต้องเสีย ฮัล ร็อบสัน-คานู กองหน้า และ คีแรน กิบบ์ส แบ็คซ้ายจากอาการบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนเอา แมตต์ ฟิลิปป์ส และ อาห์เหม็ด เฮกาซี ลงมาเล่นแทนตามลำดับ
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เวสต์บรอม มาได้ประตูนำห่างเป็น 3-1 จากจังหวะ เคร็ก ดอว์สัน รับบอลโด่งในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนหวดด้วยขวากึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตู แต่ โจเอล มาติป แนวรับหงส์แดงสกัดไม่ดีบอลเข้าประตูเป็นหารทำเข้าประตูตัวเอง พร้อมจบ 45 นาที
นาทีที่ 75 เดอะ เรดส์ บุกหนัก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน แทงบอลออกทางซ้ายให้ แดนนี อิงส์ หัวหอกตัวสำรองที่ลงมาแทน เอ็มเร ชาน ก่อนได้ตั้งป้อมปั่นด้วยขวาไปติดเซฟ เบน ฟอร์สเตอร์ บอลกระดอนออกมาเข้าทาง เจมส์ มิลเนอร์ ตัวสำรองที่ ลงมาแทน อเล็กซ์ อ็อกเลดซ์ แชมเบอร์เลน ยิงซ้ำด้วยขวา แต่ฟอร์สเตอร์ ยังกระโดดตามมาใช้ขาเซฟได้
3 นาทีต่อมา เจ้าบ้านมาได้ประตูจุดความหวัง เมื่อ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้จ่ายบอลยัดเข้ามาในเขตโทษให้ ฟีร์มิโน จับบอลไม่อยู่ แต่กลายเป็นดีมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงสวนด้วยซ้ายเข้าไป ไล่มาเป็น 2-3
เกมครึ่งหลัง แม้ เรด แมชชีน จะทำเกมบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรรับที่มีระเบียบวินัยได้ จบ 90 ลิเวอร์พูล แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-3 ตกรอบ 4 หรือรอบ 32 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ
Cr:goal.com
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ