EVERYBODY[THEKOP]™บอร์ดของคนรักหงส์
ตำนาน!"เอ๋อ"หัวร้อนโดนล้อ พ่นน้ำลายใส่รถแฟนผี Hhhhhh11
EVERYBODY[THEKOP]™บอร์ดของคนรักหงส์
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
LiFTiME™
LiFTiME™
AdminBoard
AdminBoard
THE KLOPP
เหรียญ LFC สุดยอด
Post : 876
Like : 14
Points : 1020
Join : 24/06/2010
Power : ตำนาน!"เอ๋อ"หัวร้อนโดนล้อ พ่นน้ำลายใส่รถแฟนผี 10010
https://lfc1892.thai-forum.net/

LFC ตำนาน!"เอ๋อ"หัวร้อนโดนล้อ พ่นน้ำลายใส่รถแฟนผี

Mon 12 Mar 2018, 11:38
ตำนาน!"เอ๋อ"หัวร้อนโดนล้อ พ่นน้ำลายใส่รถแฟนผี DYC_MnPX4AEzNhf

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังลิเวอร์พูล โดนแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดล้อจนหัวร้อน ก่อนถุยน้ำลายก้อนใหญ่ใส่รถและแถมไปโดนหน้าลูกสาววัย 14 ปีของคู่กรณีด้วย

คาร์ราเกอร์ทำหน้าที่กูรูให้กับสกายสปอร์ตที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมที่"หงส์แดง"บุกแพ้จ๋อย 2-1

จากนั้นในช่วงที่เขาขับรถกลับบ้านแล้วโดนจับภาพได้ว่ากำลังหัวร้อนที่โดนล้อเลียนผลการแข่ง ก่อนจะถุยน้ำลายใส่รถแฟนบอล"ปีศาจแดง"คู่กรณี

เด็กสาววัย 14 ปีที่อยู่ในรถบอกว่าน้ำลายที่คาร์ราเกอร์ถุยมาโดนใบหน้าจนทำให้เธอร้องไห้ออกมา

พ่อของเด็กหญิงบอกว่าเขา"ล้อเล่นนิดหน่อย"กับคาร์ราเกอร์ ก่อนที่เรื่องจะบานปลายหลังจากพูดเรื่องสกอร์ 2-1 ซึ่งเขาเชื่อว่าอดีตกองหลังลิเวอร์พูลน่าจะเห็นว่าลูกสาวของเขาอยู่ในรถ

มิร์เรอร์ รายงานว่าคาร์ราเกอร์ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังคู่พ่อ-ลูก และได้กล่าวว่า "ผมอยากจะขอโทษและหวังว่าคุณจะไม่เป็นไร" ก่อนที่เด็กหญิงจะตอบ "ฉันโอเค ขอบคุณสำหรับคำขอโทษ"

คาร์ราเกอร์นั้นออกมายอมรับว่าเขาคุมตัวเองไม่อยู่หลังจากที่โดนแฟนบอลยูไนเต็ดขับรถตามล้อไม่หยุด โดยบอกว่า "มันเป็นอะไรที่มากกว่าคำว่า -หวัดดีเจมี่ 2-1 เว้ย- มันเกิดขึ้นสองสามครั้ง ตอนแรกผมขับหนีแต่มันก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น"

"ผมหัวเสีย ผมไม่ควรทำแบบนั้น แต่ตอนนั้นก็คิดนะว่าคนๆนี้กำลังทำอะไร ทำแบบนี้มาสองสามหนแล้วโดยมีลูกสาวอยู่ในรถเนี่ยนะ?"

คาร์ราเกอร์นั้นมีคิวจะเข้าไปทำหน้าที่ทางสกายสปอร์ตในเกมคืนวันจันทร์ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะลงสนามบุกเยือนเบ็ต365 ของสโต้ค ซิตี้ ซึ่งโฆษกของสถานีดังแถลงว่า "มันเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ และเราจะคุยกับเจมี่"

จากคลิปเหตุการณ์ที่พ่อของเด็กหญิงเป็นคนถ่ายไว้นั้นจะได้ยินเสียงของเธอพูดว่า "เขาถ่มน้ำลายใส่หนู" ก่อนพ่อจะถามว่า "โดนตรงไหน?" เธอจึงตอบไปว่า "โดนหน้า" สุดท้ายบอกให้พ่อของเธอหยุด

คุณแม่ของเด็กออกอาการโมโหและบอกกับนักข่าวว่า "ฉันโมโหสุดๆ และผิดหวังที่เขาที่เขากล้าทำอะไรแบบนี้ ดูเธอสิ คุณก็รู้เธอเป็นแค่เด็ก"

"เธอทำอะไรผิดเหรอ? เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย การถ่มน้ำลายใส่คนอื่นเป็นอะไรที่ต่ำสุดๆ ต่ำยิ่งกว่าต่ำ น่ารังเกียจมาก"

"ตลอดหลายปีที่ดูฟุตบอลมา มันก็เป็นเรื่องการล้อกันเล่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วเขารับการล้อเล่นแค่นี้ไม่ได้อะนะ? ฉันเข้าใจนะถ้าเขาโดนละเมิดต่อหน้า แต่นี่มันไม่มีอะไรเลยแท้ๆ"

ด้านเด็กหญิงกล่าวว่า "หนูไม่เคยโดนใครถุยน้ำลายใส่มาก่อน หนูก็คิดนะว่า -เขาทำแบบนั้นทำไม- คิดว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดนะ"

"เด็กในโรงเรียนโดนล้อยังแค่หัวเราะ แต่คนอย่างเขาที่เป็นผู้ใหญ่ควรรับมุกได้สิ"

ด้านพ่อของเด็กเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเห็นคาร์ราเกอร์ขับรถบนมอเตอร์เวย์ห่างจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด 2 ไมล์ ก่อนจะเข้าไปล้อพร้อมถ่ายคลิป "เขามองมาที่ผมแล้วโบกมือ ผมโบกกลับแล้วเขาก็ลดกระจกลง"

"ผมทักไปว่า-เฮ้ เจมี่ สกอร์แจ่มนะ 2-1- แล้วเขาก็มองมาที่ผม ผมเลยบอกไปว่า -2-1 ฮ่าๆๆ- คราวนี้หน้าเขาเปลี่ยนสี แล้วผมก็เห็นเขาโน้มตัวมาที่กระจกแล้วถุย"

"ผมติดสตันเลย ผมไม่ได้ด่าหยาบอะไรเขา ผมไม่ได้ออกไปทุบรถเขา ผมไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการละเมิดเขาเลย ผมไม่ได้ชี้นิ้วด่าเขาเลย"

"ผมเคยเจอกับนักฟุตบอลมาก่อนนะและพวกเขาก็เป็นมิตรดี ผมคิดว่า -เออ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เขาก็คงจะฮาๆกันไป- แต่พอเขาถ่มน้ำลายผมเลยถอย"

"ผมมองไปที่ลูกสาวและเธอกำลังจะร้อง ผมถามว่าโดนหนูไหม ซึ่งเธอบอกว่า -เขาถุยโดนหน้าหนูเนี่ย-"

"คนเป็นผู้ใหญ่ทำแบบนั้นใส่เด็กหญิงที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอนั่งเบาะข้างคนขับขณะที่พ่อของเธอกำลังล้อเล่นขำๆแบบไม่ได้ร้ายแรงอะไร ไม่มีอะไรมากกว่านั้น และเขาก็เห็นเธอ"

ด้านเด็กหญิงยืนยันว่าคาร์ราเกอร์เห็นเธออยู่ในรถแน่ๆ "ร้อยเปอร์เซนต์เลย เพราะฉันนั่งคั่นอยู่ ไม่ได้พูดอะไร ฉันแค่นั่งและมองออกไปนอกรถ"

อย่างไรก็ตามทั้งพ่อและแม่ของเด็กกล่าวขอบคุณที่คาร์ราเกอร์ยอมต่อสายตรงไปขอโทษ

คาร์ราเกอร์นั้นเป็นคอลัมนิสต์อยู่กับ เดลี่เมล์ และเขาเคยเขียนไว้เมื่อปี 2015 ว่าเคยโดยถุยน้ำลายใส่เพียงครั้งเดียวในอาชีพค้าแข้ง

"ในการเล่นอาชีพผมเคยโดยถุยน้ำลายใส่แค่ครั้งเดียว เป็นตอนที่เล่นยูฟ่า คัพ กับเซลต้า บีโก้ ปี 1998 และผู้เล่นคนนั้นคืออเล็คซานเดอร์ มอสโตวอย มิดฟิลด์ชาวรัสเซีย"

"ตอนที่เขาทำผมช็อกมากกว่าที่จะโมโหเพราะไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น" เขากล่าว







Cr:soccersuck.com
ขึ้นไปข้างบน
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ