หงส์เปิดรังดับซ่าจิ้งจอก 2-1 ซิวชัย 8 นัดรวด
Sun 06 Oct 2019, 12:08
หงส์แดงได้ประตูชัยจากจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บเอาชนะ เลสเตอ่ร์ 2-1 เก็บชัยชนะ 8 นัดรวดในฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล จ่าฝูงที่เก็บชัยชนะมา 7 นัดรวด เกมนี้ไม่มี โจเอล มาติป ที่ยังมีอาการบาดเจ็บแต่นักเตะตัวหลักรายอื่นลงสนามได้ครบครันโดยเฉพาะแนวรุกที่ยังเป็นสามประสานชุดเก่ง ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน
ขณะที่ทาง เลสเตอร์ ทีมเยือนได้รับข่าวดีเมื่อ เจมส์ แมดดิสัน ดาวเตะฟอร์มแรงเรียกความฟิตกลับมาลงประสานงานกับ เจมี วาร์ดี้ ในแนวรุกได้ทันเวลา
ลิเวอร์พูล บุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมและเกือบขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 12 เมื่อ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งเข้ามาซัดเต็มเหนี่ยวแต่บอลเหินข้ามคาน
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแม้ ลิเวอร์พูล จะครองเกมบุกได้มากกว่า แต่ยังเจาะแนวรับของ เลสเตอร์ ที่ยืนกันอย่างหนาแน่นเข้าไปยิงไม่ได้
นาทีที่ 33 เจ้าถิ่นได้ลุ้นขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะครอสบอลอันแม่นยำของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้าไปในเขตโทษและเป็น ฟีร์มิโน เข้าชาร์ทแต่โดนไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไป
GOAL! นาทีที่ 40 ลิเวอร์พูลขึ้นนำสำเร็จ จากจังหวะวางบอลของ มิลเนอร์ ให้ มาเน หลุดเดี่ยวไปดวลกับ ชไมเคิล ก่อนแปสวนตัวเข้าไปไม่เหลือ เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
นาที 55 หงส์แดง เกือบได้ประตูที่สองเมื่อ ซาเน ทำชิ่งกับ ซาลาห์ ก่อนหลุดเขาไปซัดแต่ อีแวนส์ ล้มตัวบล็อคออกหลังไปได้ทันเวลา
เจ้าถิ่นยังเดินเครื่องบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 65 ฟีร์มิโน ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาสองไปแบบได้ลุ้น
นาที 72 เลสเตอร์ ได้ลุ้นตีเสมอเมื่อ เดนนิส ปราต ได้ซัดเต็มข้อจากหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งหลุดเสาไกลไปนิดเดียวเท่านั้น
GOAL! นาทีที่ 80 เลสเตอร์ ตีเสมอสำเร็จจากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ จ่ายบอลให้ เจมส์ แมดดิสัน หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ อาเดรียน เข้าไปอย่างเฉียบขาด สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1
GOAL! ช่วงทดเวลาเจ็บนาที 90+4 หงส์แดงมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาเน โดนทำฟาล์ว และเป็น เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เจ้าถิ่นขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เก็บชัยชนะ 8 นัดรวด
Cr: goal.com
ลิเวอร์พูล จ่าฝูงที่เก็บชัยชนะมา 7 นัดรวด เกมนี้ไม่มี โจเอล มาติป ที่ยังมีอาการบาดเจ็บแต่นักเตะตัวหลักรายอื่นลงสนามได้ครบครันโดยเฉพาะแนวรุกที่ยังเป็นสามประสานชุดเก่ง ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน
ขณะที่ทาง เลสเตอร์ ทีมเยือนได้รับข่าวดีเมื่อ เจมส์ แมดดิสัน ดาวเตะฟอร์มแรงเรียกความฟิตกลับมาลงประสานงานกับ เจมี วาร์ดี้ ในแนวรุกได้ทันเวลา
ลิเวอร์พูล บุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมและเกือบขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 12 เมื่อ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งเข้ามาซัดเต็มเหนี่ยวแต่บอลเหินข้ามคาน
เกมผ่านครึ่งชั่วโมงแม้ ลิเวอร์พูล จะครองเกมบุกได้มากกว่า แต่ยังเจาะแนวรับของ เลสเตอร์ ที่ยืนกันอย่างหนาแน่นเข้าไปยิงไม่ได้
นาทีที่ 33 เจ้าถิ่นได้ลุ้นขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะครอสบอลอันแม่นยำของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้าไปในเขตโทษและเป็น ฟีร์มิโน เข้าชาร์ทแต่โดนไม่ดีบอลหลุดกรอบออกไป
GOAL! นาทีที่ 40 ลิเวอร์พูลขึ้นนำสำเร็จ จากจังหวะวางบอลของ มิลเนอร์ ให้ มาเน หลุดเดี่ยวไปดวลกับ ชไมเคิล ก่อนแปสวนตัวเข้าไปไม่เหลือ เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
นาที 55 หงส์แดง เกือบได้ประตูที่สองเมื่อ ซาเน ทำชิ่งกับ ซาลาห์ ก่อนหลุดเขาไปซัดแต่ อีแวนส์ ล้มตัวบล็อคออกหลังไปได้ทันเวลา
เจ้าถิ่นยังเดินเครื่องบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 65 ฟีร์มิโน ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาสองไปแบบได้ลุ้น
นาที 72 เลสเตอร์ ได้ลุ้นตีเสมอเมื่อ เดนนิส ปราต ได้ซัดเต็มข้อจากหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งหลุดเสาไกลไปนิดเดียวเท่านั้น
GOAL! นาทีที่ 80 เลสเตอร์ ตีเสมอสำเร็จจากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ จ่ายบอลให้ เจมส์ แมดดิสัน หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ อาเดรียน เข้าไปอย่างเฉียบขาด สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1
GOAL! ช่วงทดเวลาเจ็บนาที 90+4 หงส์แดงมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาเน โดนทำฟาล์ว และเป็น เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด เจ้าถิ่นขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เก็บชัยชนะ 8 นัดรวด
Cr: goal.com
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ