Beginning of the end? ไขข้อสงสัยหลัง "เรือ" โดนแบนบอลยุโรป 2 ปี
Tue 18 Feb 2020, 09:42
อาจจะเป็นเรื่องราวข่าวที่ใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษฤดูกาลนี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดนเตะโด่งออกจากการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ ลีก จนถึงปี 2022
ซิตี้ เดือดหนัก อ้างว่าพวกเขาโดนตัดสินให้มีความผิดโดย "ศาลเถื่อน" (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า kangaroo court หมายถึง ศาลที่ละเลยหรือบิดเบือนหลักการทางกฎหมายและความยุติธรรม) และสัญญาว่าการต่อสู้จะไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้คือพวกเขาโดนตัดสิทธิ์ไปแล้ว ซึ่งทำให้เกิดคำถามตามมาหลายข้อกับตัวสโมสร
ถือเป็นจุดจบของ เป๊บ หรือเปล่า?
หลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ ตอบคำถามเรื่องอนาคตโดยเน้นว่า เขาจะอยู่กับ 'เรือใบสีฟ้า' จนครบสัญญาซึ่งจะหมดลงในปี 2021
แต่กระนั้น กวาร์ดิโอล่า ได้แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในบอร์ดบริหารของ ซิตี้ อย่างสม่ำเสมอ เมื่อบุคคลเหล่านั้นรับรองว่าสิ่งที่คณะกรรมการสอบสวนของยูฟ่ากำลังสอบสวนนั้นไม่มีมูลแต่อย่างใด
กวาร์ดิโอล่า จะรู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ออกมาหรือไม่? ถือเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดออกมา
อย่างไรก็ตาม คงเป็นเรื่องแฟร์ที่เราจะทึกทักว่าหลังจากที่เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกมาได้ 2 สมัยติดต่อกัน โดยเก็บแต้มมโหฬารไม่เหมือนที่สโมสรใดเคยทำเอาไว้ และนอกจากนี้ยังเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ 3 รายการในประเทศภายในหนึ่งฤดูกาล กวาร์ดิโอล่า อาจเจอกับปัญหาในการค้นหาแรงบันดาลใจ
หาก ซิตี้ คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลนี้ กวาร์ดิโอล่าคงโบกมืออำลาอยู่แล้ว ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจินตนาการว่าเขาจะอยู่กับทีมต่อไป ท่ามกลางข่าวลือความสนใจจาก ยูเวนตุส รวมทั้งความท้าทายอีกหลาย ๆ อย่างที่อาจเกิดขึ้น
อนาคตของ กวาร์ดิโอล่า กับ ซิตี้ คงขึ้นอยู่กับว่าสโมสรจะอุทธรณ์โทษแบนดังกล่าวสำเร็จหรือไม่...
แล้วนักเตะล่ะ?
เราทราบกันอยู่แล้วว่า ดาบิด ซิลบา มิดฟิลด์จอมเก๋าจะย้ายออกจากสโมสรเมื่อฤดูกาลจบลง แต่นักเตะอีกหลายคนที่สัญญาจะหมดลงก่อนที่ ซิตี้ จะได้กลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปคือเรื่องที่น่ากังวล
แซร์คิโอ้ อเกวโร่ คือตัวท๊อปในลิสต์ดังกล่าว สัญญาของเขากำลังจะหมดในปี 2021 สัญญาของ เลรอย ซาเน่ จะหมดลงในปีเดียวกัน สัญญาของ จอห์น สโตนส์ จะหมดลง 1 ปีหลังจากนั้น และ นิโคลาส โอตาเมนดี้ ก็เช่นกัน
แล้วสตาร์ดังคนอื่น ๆ ที่มีสัญญาผูกมัดเกินปี 2022 ขึ้นไป เช่น เควิน เดอ บรอยน์, เอแดร์ซอน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และริยาด มาห์เรซล่ะ?
หาก กวาร์ดิโอล่า ย้ายออกไป เราคงได้เห็นนักเตะอีกหลายคนที่ย้ายออกไปด้วย โดยการสร้างทีมครั้งใหม่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
สิ่งนี้มีความหมายโดยนัยกับเรื่องการเงินอย่างไร?
ที่น่าตลกคือหัวข้อนี้จะกลายเป็นแง่มุมที่มีความสำคัญน้อยที่สุด ทุกคนรู้ดีว่า ซิตี้ มีเจ้าของทีมที่รวยล้นฟ้า ทุกคนยังรู้ถึงความยากลำบากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเจอในการพยายามกลับไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีกในช่วงหลัง อาร์เซนอล พลาดเข้าร่วมรายการนี้มา 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ซีซั่นที่แล้ว เชลซี ไม่ได้เข้าแข่งขัน ส่วน ลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้เล่นตอนปี 2015
ใช่ บทสรุปคือพวกเขาจะสูญเสียรายได้หลายสิบล้านปอนด์ แต่คงไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมากนักหรอก
บางทีเรื่องที่ยากที่สุดจะเป็นการพลาดโอกาสเก็บค่าสัมประสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อพวกเขาได้กลับไปมีส่วนร่วม ซิตี้ จะกลายเป็นทีมโถรอง และเจอกับความยากลำบากยิ่งขึ้นในการผ่านเข้าสู่รอบท้าย ๆ ในการแข่งขัน
นี่คือจุดจบยุคความรุ่งเรืองของ เรือใบสีฟ้า หรือไม่?
หากผลลัพธ์การตัดสินครั้งนี้ทำให้ช่วงเวลาของ กวาร์ดิโอล่า กับ ซิตี้ สิ้นสุดลง ก็ให้มองว่าเป็นจุดจบในยุคที่รุ่งเรืองได้เลย
แต่กระนั้น ยุคสมัยในฟุตบอลมันเข้ามาแล้วก็ผ่านไป เมื่อไรก็ตามที่ กวาร์ดิโอล่า ลงจากตำแหน่ง ซิตี้ มีงานที่ต้องสร้างทีมใหม่ขึ้นมาอยู่แล้ว และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ถึงแม้ว่าการเซ็นสัญญานักเตะเข้ามาจะยากลำบากมากขึ้นก็ตาม
ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือความเสียหายต่อชื่อเสียงของ ซิตี้
นับตั้งแต่การปลด มาร์ค ฮิวจ์ส ออกจากตำแหน่งเมื่อปี 2009 ที่ได้รับการจัดการอย่างย่ำแย่ ซิตี้ ทะนงตนในการทำเรื่องต่าง ๆ ด้วยแนวทางที่เหมาะสมมาตลอด พวกเขาเชื่อมั่นว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีชื่อเสียงในแง่ดี
หากคำตัดสินนี้ไม่เปลี่ยนแปลง มันจะกัดเซาะเรื่องดี ๆ ที่พวกเขาได้ทำเอาไว้
พวกเขาจะโดนมองว่าหาทางโกงเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จในรายการนี้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็จะส่งผลเสียหายต่อชื่เสียงของ ชีค มานซูร์ เจ้าของทีม รวมทั้ง คัลดูน อัล-มูบารัก ประธานสโมสรด้วย หากกรณีนี้เกิดขึ้นจริง ผลกระทบที่ตามมาคงเป็นสิ่งที่น่าติดตามชมไม่น้อย
พวกเขาทำอะไรลงไป?
หลัก ๆ คือการปกปิดรายจ่ายหลายรายการ รายจ่ายเหล่านี้อาจเป็นการจ่ายในนามบุคคล หรือการอัดฉีดเงินเข้าไปในดีลของสปอนเซอร์ ซึ่งทำให้สโมสรมีรายได้เพียงพอกับกฎแฟร์เพลย์ทางด้านการเงิน
ซิตี้ ถูกลากมาตบกลางสี่แยกโดย Football Leaks กลุ่มองค์กรซึ่งทำการเปิดเผยเอกสารลับหลายพันฉบับไปให้กับ Der Spiegel นิตยสารจากประเทศเยอรมนี
ซิตี้ กล่าวหาว่าพวกเขาต้องตกเป็นเหยื่อจากการแฮ็คอย่างผิดกฎหมายโดยผู้คนที่แสดงเจตนารมณ์ในการทำลายชื่อเสียง พวกเขายังบอกด้วยว่า อีเมลจำนวนมาก ถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักสำหรับรายงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกตีความไปอย่างผิดเพี้ยน
การแข่งขันแย่ง ท็อปโฟร์ ตอนนี้กลายเป็นการแข่งขันแย่ง ท็อป ไฟว์?
ก่อนการแข่งขันสุดสัปดาห์ เชลซี มีคะแนนนำหน้า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2 แต้มในการแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์เพื่อตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้น หาก ซิตี้ โดนเขี่ยออกจากรายการ แต่หาก ยูฟ่า ตัดสินใจว่าจะยังคงมอบตั๋วให้กับทีมจากอังกฤษ 4 ใบ ซึ่งทีมอันดับ 5 ของลีกจะได้เข้าร่วมการแข่งขัน สงครามการสู้รบที่น่าดูชมคงเกิดขึ้น
ตั้งแต่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในอันดับที่ 5 ไล่ไปถึง คริสตัล พาเลซ ในอันดับที่ 14 ทั้ง 10 ทีมมีคะแนนแตกต่างกันเพียง 9 แต้ม
อาร์เซนอล จากทีมที่ดูจะไม่มีลุ้นคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็จะได้กลับมามีโอกาสอีกครั้ง
Cr:soccersuck
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ