แชมป์แล้วจ้า "หงส์แดง"ผงาดฟ้า 30 ปี ที่รอคอย
Fri 26 Jun 2020, 14:47
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
วลีนี้ถูกทำลายล้างโดยสิ้นเชิงด้วยฝีเท้าของพลพรรคนักเตะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลเนื่องเพราะเกมลูกหนังที่แฟนบอลคลั่งไคล้ที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีก ยังเหลือให้สู้กันอีก 7 นัด แต่กลับไม่มีความหมายใดๆ
เมื่อแชมป์ตกเป็นของ "ลิเวอร์พูล" ภายหลังทีมคู่แข่งอย่าง "เรือในสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ บุกไปพ่าย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เมื่อราตรีที่ผ่านมา
ทำให้คะแนน "ลิเวอร์พูล" มีมากกว่าคู่แข่งถึง 23 คะแนน แม้ "แมนฯ ซิตี้" จะชนะทุกนัดที่เหลือก็เก็บได้แค่ 21 คะแนน
26 มิถุนายน จึงอาจถูกสถาปนาเป็น "วันลิเวอร์พูลแห่งชาติ" เมื่อโลกโซเซี่ยลและแฟนหงส์ทั่วโลก ต่างโพสต์ระบายความรู้สึก เผยแพร่ภาพและกล่าวถึงความประทับใจจนพบเห็นกันเกลื่อน ภาพ "รถแห่" ที่เคยถูกล้อในกาลก่อน กลับปรากฏวิบวับราวกับนัดไว้ให้เห็นกันถ้วนทั่ว
ความสุขความสมหวังที่รอคอยมา 30 ปี มาสัมฤทธิ์ผลในวันนี้ ถือเป็นแชมป์แรกในชื่อ "พรีเมียร์ ลีก" หลังจากประสบความสำเร็จในยุค "ดิวิชั่น 1" และทำให้ภาพรวมของ "ลิเวอร์พูล" เป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19
ต้องยอมรับว่า จุดเปลี่ยนสำคัญคือการเข้ามาของ "เจอร์เก้น คล็อปป์" กุนซือชาวเยอรมันคือ "ของจริง" ผลงานการปลุกปั้น "ไมนซ์ 05" จากทีมที่แทบไม่มีใครรู้จัก กลายเป็นทีมแกร่งแม้ไร้สตาร์ และเด่นชัดคือสร้าง "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ จนกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์บุสเดสลีก้า ลีกสูงสุดเยอรมันได้สำเร็จ
การคว้าแชมป์ของ "ลิเวอร์พูล" นอกเหนือความสำเร็จของสโมสร ยังเป็นความสำเร็จส่วนตัวของ "คลอป์" ที่จ่อคิวโค้ชประวัติศาสตร์ ฉลองวันเกิดย้อนหลังที่ผ่านมาเมื่อ 16 มิถุนายน ในวัย 53 อย่างยิ่งใหญ่
ภาพแห่งความสำเร็จ นอกเหนือจาก "คลอปป์" และบรรดาสตาร์ดังของทีม ไม่ว่าจะเป็น "มาเน่" หรือ "ซาล่าห์" รวมถึง "ฟาน ไดค์" ยังต้องให้เครดิตกับผู้บริหารของสโมสร ที่ยอมควักเงินจ้างกุนซือระดับ "คลอปป์" เข้ามา
รำลึกจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จ ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2015 กุนซือวัย 40 ปลายๆ จากเมืองสตุ๊ดการ์ด เยอรมัน เข้ามาเซ็นสัญญาเข้ารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม "ลิเวอร์พูล" แทน "เบรนดัน ร็อดเจอส์" หลังพาทีมออกสตาร์ทในฤดูกาลนั้นไม่สวยอย่างที่คิด
แม้ "ร็อดเจอส์" เคยทำผลงานใกล้เคียงในการคว้าแชมป์ แต่ก็ต้องตกเป็นที่สองรองจาก แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2013-14 เพียงแค่แต้มเดียว แม้ "ลิเวอร์พูล" จะทำคะแนนได้สูงถึง 97 คะแนน ก็ได้แค่บันทึกว่าเป็นอันดับ 2 ที่ทำคะแนนได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ และแฟนหงส์คาดหวังว่าจะทำได้ดีกว่าในฤดูกาลต่อมา
แต่การเริ่มต้น 8 นัด ตกไปอยู่ในอันดับเลขสองหลัก เป็นเรื่องที่ทีมใหญ่อย่าง "ลิเวอร์พูล" ทำใจยอมรับไม่ได้
"คลอปป์" เข้ามารับหน้าที่คุมทีมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในนัดที่ 9 ของฤดูกาล ที่ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกไปเยือน สเปอร์ ถือว่าเป็นงานหนัก แต่ก็ผ่านบททดสอบมาได้ด้วยการแบ่งแต้มกลับเอนฟิลด์ ด้วยสกอร์ 0-0
จากนั้นมากุนซือชาวเยอรมันเริ่มปรับแต่ง หาส่วนผสมและรูปแบบการเล่นที่ลงตัว อุดจุดอ่อน เสริมจุดแข็งและหาจุดขาย จนกลายเป็นที่รุกรับอย่างลื่นไหลและแข็งแกร่ง
แต่ด้วยประสบการณ์และความอ่อนไหวของนักเตะหน้าใหม่ ทำให้ล้มเหลวในเกมนัดสำคัญในช่วงแรก ทั้งการพลาดแชมป์ลีกคัพในการชิงกับ "แมนฯ ซิตี้" การพ่าย "เซบีญ่า" ในเกมยูโรป้าลีก มีโอกาสไปชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็แพ้ "เรอัล มาดริด"
ช้ำเป็นท่านรองติดต่อกันในหลายรายการสำคัญ แต่นั่นคือ บทเรียน
กระทั่งความลงตัวที่ก่อนเกิดทั้งสภาพจิตใจและฟอร์มการเล่น เมื่อส่วนผสมจากมันสมองที่โค้ชที่หาจุดสมดุล ไร่เรียงตั้งแต่ประตูที่เคยเป็นจุดอ่อน จนมาลงตัวที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์
แนวรับที่แข็งแกร่งปานภูผานำโดย "ฟาน ไดค์" เซ็นเตอร์ชาวดัตซ์ที่เชื่อว่าดีที่สุดในโลกเวลานี้ ที่ทำงานร่วมกับแบ็กดาวรุ่งที่ยิงและจ่ายกระจาย อย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ส่วนกองกลางที่นำโดยกัปตันที่หลายคนเคยมองข้าม "จอร์แดน เฮนเดอร์สัน" ก่อนพิสูจน์ตัวเองจนเป็นที่ยอมรับ
แน่นอนว่า แนวรุกคือหัวใจและพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้อยู่เสมอนั่นคือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ด่านพิสูจน์สำคัญที่สร้างความมั่นใจให้พลพรรคหงส์แดงและกองเชียร์คือการล้ม "บาร์เซโลน่า" ในรอบรองและการเอาชนะ "สเปอร์ส" ในนัดชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 เมื่อฤดูกาลก่อน
ในเมื่อแชมป์ยุโรป คว้ามาแล้ว แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทีมที่มีความมั่นใจและพร้อมพรั่งด้วยสรรพกำลัง ในฤดูกาลนี้ "คล็อปป์" ใช้เงินซื้อนักเตะใหม่มาเป็นอะหลั่ยแค่ 1.3 ล้านปอนด์เท่านั้น ขุมกำลังทั้งหมดคือ "ชุดเดิม" แล้วที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ "ลิเวอร์พูล" ในฐานะแชมป์ลีกสูงสุด ฤดูกาล 2019-20 ถือเป็นแชมป์ที่ 4 ในยุค "คล็อปป์"
หลังกวาดสำเร็จมา 3 แชมป์ในฤดูกาลที่แล้วคือ แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
เชื่อเลยว่า "คล็อปป์" และลูกทีม "หงส์แดง" ที่กำลังผงาดไม่หยุดแต่เพียงแค่นี้แน่นอน
Cr:smmsport.com
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: แชมป์แล้วจ้า "หงส์แดง"ผงาดฟ้า 30 ปี ที่รอคอย
Sat 27 Jun 2020, 06:31
สุดๆไปเลย ไม่พูดเยอะเจ็บคอ รักบอสสุดๆ
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ