12 โมเม้นท์แห่งซีซั่น พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2019/20

[LFC1892™Webmaster THE KLOPP เหรียญ LFC ยอด Like เหรียญ LFC สุดยอด]

พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ถึงบทสรุปในวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2563 แม้จะเป็นซีซั่นที่แปลกๆ แต่ก็มีเรื่องราวให้จดจำมากมาย แต่ช่วงเวลาไหนที่แฟนบอลจะนึกถึงหรือจดจำเป็นพิเศษบ้างนั้น เราลองมาดูกัน

11 เดือนหลังจากออกสตาร์ท พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2019-20 ก็กำลังจะมาถึงบทสรุป ระหว่างทางนั้นเต็มไปด้วยประตูอันงดงาม, การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ และช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ที่ในที่สุดแล้วก็เป็นลิเวอร์พูลที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดไปครองเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีในซีซั่นที่โดนรบกวนจากการระบาดของโควิด-19 และ BBC Sport ได้หยิบ 12 เหตุการณ์แห่งความทรงจำจากฤดูกาลที่ไม่ปกติและยาวนานนี้มาย้อนให้ดูกันอีกครั้ง 

นอริช เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

            นอริชกลับสู่เวทีพรีเมียร์ ลีก อีกครั้งแต่ก็อยู่ได้แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น แต่พวกเขาก็สมควรได้รับการยกย่องอย่างสำหรับการยึดมั่นในสไตล์ของพวกเขาตลอดมา ฟุตบอลที่ดูสนุกในสไตล์ของพวกเขาเป็นสิ่งที่คนดูชอบและในช่วงต้นฤดูกาลมันช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างความช็อคได้หลายครั้ง ที่เด่นชัดที่สุดก็คือตอนที่เอาชนะแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 เมื่อเดือนกันยายน และนั่นคือความพ่ายแพ้ครั้งแรกของทัพ 'เรือใบสีฟ้า' นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 และทำให้ทัพ 'นกขมิ้นเหลืองอ่อน' มีความหวังสำหรับการรอดตกชั้น แต่ที่สุดพวกเขาก็หมดพลังในการที่จะเล่นสไตล์นั้นต่อไป แต่ผลการแข่งขันครั้งนี้จะติดอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ นอริชไปอีกยาวนาน

เลสเตอร์ ถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน 9-0

            ถ้าดูจากการเล่นของเซาธ์แฮมป์ตันนับตั้งแต่ฟุตบอลกลับมารีสตาร์ทเมื่อเดือนมิถุนายน มันก็ยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาเคยพ่ายแพ้อย่างย่อยยับด้วยตัวเลขที่เกือบแตะ 2 หลัก โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม พวกเขาโดนเลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาขย้ำถึงถิ่น โดยที่อโยเซ่ เปเรซ และ เจมี่ วาร์ดี้ ทำคนละแฮทริค ช่วยให้ 'จิ้งจอกสยาม' ชนะไปถึง 9-0 ถือเป็นสกอร์ไลน์ที่น่าอดสูในตอนนั้นและทำให้ทัพ 'นักบุญ' ต้องหล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น แต่ที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่าสามารถอยู่รอดในพรีเมียร์ ลีก ได้อย่างสบายๆ และมีดีพอที่จะต่อสู้เพื่ออันดับที่ดีกว่านี้ในฤดูกาลหน้า
 
ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง 8 แต้ม

           หลังจากเล่นไปแค่ 12 เกม ลิเวอร์พูลก็ได้ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยากที่จะกลับมาเมื่อ 'หงส์แดง' เอาชนะคู่ปรับสำคัญไป 3-1 ที่แอนฟิลด์ นำให้แต้มขยับหนีออกไปเป็น 8 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงค่อนข้างห่าง ก่อนเกม มีการคาดหมายกันว่า นี่จะเป็นช่วงเวลาแห่งการชี้ชะตาว่าพวกเขาจะสามารถสิ้นสุดการรอคอย 30 ปีของพวกเขาได้หรือไม่ และมันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเป็นอย่างนั้นได้เมื่อพวกเขายังคงเกาะตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
 
สเปอร์สปลดฟ้าผ่าโปเช็ตติโน่

            เดือนพฤศจิกายนเป็นสัญญาณแห่งการสิ้นสุดยุคของการคุมทีมที่สเปอร์ส เมื่อเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โดนไล่ออกหลังจากอยู่กับทีมมา 5 ปีครึ่ง โดยได้โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทีมแทนทันที เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเปล่า? เวลาเท่านั้นจะเป็นตัวตัดสินว่าท็อตแน่มจะสามารถจบท็อป 6 หรือเล่นฟุตบอลยุโรปได้หรือไม่ในฤดูกาลหน้า
 
ประตูสุดอัศจรรย์ของซน ฮึงมิน ในเกมกับเบิร์นลีย์

           มันค่อนข้างจะยากเล็กน้อยที่จะนึกว่าประตูไหนบ้างจะเป็นประตูยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ไม่ปกตินี้ แต่มีอยู่ลูกนึงที่โดดเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษ นั่นก็คือประตูของซน ฮึงมิน ในเกมกับเบิร์นลีย์ เมื่อเดือนธันวาคม โดยแนวรุกของสเปอร์ส ได้บอลจากนอกกรอบเขตโทษของตัวเอง ในอีก 12 วินาทีต่อมากับการสัมผัสบอล 12 ครั้ง เขากระชากบอลผ่านกองหลังทีมเยือนก่อนจะยิงผ่านมือนิค โป๊ป เข้าไป ช่วยให้สเปอร์สถล่มไปสบายๆ 5-0 ลูกยิงดังกล่าวได้รับการโหวตจากแฟนๆ ของ BBC ให้เป็นประตูยอดเยี่ยมจากการโหวตเมื่อเดือนพฤษภาคม และมีลูกยิงน้อยมากนับตั้งแต่ฟุตบอลรีสตาร์ทที่ใกล้เคียงกับประตูสุดอัศจรรย์ลูกนั้น
 
การแต่งตัวอันเชล็อตติในฐานะผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน

เอฟเวอร์ตันทำเรื่องช็อคเมื่อเดือนธันวาคมเมื่อพวกเขาสามารถกล่อมสุดยอดผู้จัดการทีมอย่างคาร์โล อันเชล็อตติ เจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยให้มาคุมทีมได้สำเร็จ  ตอนนั้น ทัพ 'ทอฟฟี่สีน้ำเงิน' กำลังตกอยู่ในอันตรายเมื่อต้องหนีตกชั้น แต่กุนซือชาวอิตาเลียนฉุดพวกเขาขึ้นมาจากโซนตกชั้นและแฟนๆ เอฟเวอร์ตันก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นในสิ่งที่เขาทำได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้

 

วัตฟอร์ดจบสถิติไร้พ่ายของลิเวอร์พูล

            ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เห็นสิ่งนี้ ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักและแข็งแกร่งเป็นอย่างมากในการไล่ล่าแชมป์ในตอนที่พวกเขาเดินทางไปถึงวิคาเรจ โร้ด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เพื่อดวลกับวัตฟอร์ดที่อยู่ในโซนตกชั้นและไม่เคยชนะเลยใน 5 เกมหลังสุดของพวกเขา แต่ทัพ 'แตนอาละวาด' กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและทำช็อคด้วยการเอาชนะไปถึง 3-0  ทำลายความหวังในการจบฤดูกาลด้วยการไร้พ่ายของหงส์แดงลงไปอย่างยับเยิน

 

โคโรน่าไวรัสทำให้ฤดูกาลต้องหยุดลง (ชั่วคราว)

           ถ้าจะพูดถึงโมเมนท์แห่งฤดูกาล นี่คือเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุด เมื่อวันที่ 12 มีนาคม อาร์เซนอล ออกมายืนยันว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของพวกเขามีผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก วันต่อมา ฟุตบอลลีกสูงสุดในอังกฤษต้องหยุดการแข่งขันลงและเพิ่งจะมารีสตาร์ทเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563

 

ดาบคู่เจอพิษเทคโนโลยีโกลไลน์

            ไม่นานหลังจากฟุตบอลรีสตาร์ท เทคโนโลยีโกลไลน์ ก็ตกเป็นประเด็นร้อนแรง แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เกี่ยวกับ VAR ซึ่งตกเป็นเป้าของการถูกวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเทคโนโลยีโกลไลน์ ที่สร้างความผิดหวังหลังจากที่ไม่ทำงานในลูกเตะฟรีคิกของโอลิเวอร์ นอร์วู้ด ที่ข้ามเส้นประตูของแอสตัน วิลล่า ไปแล้ว ในเกมที่ทั้งคู่เสมอกันไปแบบไร้สกอร์

 

ความผิดพลาดร้ายแรงของลุยซ์ในนัดเจอแมนเชสเตอร์ ซิตี้

            วันที่ยากจะลืมเลือนสำหรับดาวิด ลุยซ์ เมื่อทุกอย่าางมันดูผิดที่ผิดทางไปหมด โดยในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปราการหลังของอาร์เซนอลที่ลุกจากม้านั่งสำรองในครึ่งแรกทำพลาดในประตูเบิกร่องของราฮีม สเตอร์ลิ่ง จนเสียจุดโทษ และจากนั้นเจ้าตัวก็โดนไล่ออก ถือว่าลูกดังกล่าวมาในเวลาที่ไม่พึงประสงค์เพราะสัญญาของเขากำลังจะหมดลงในปลายเดือนนั้น แต่โชคดีสำหรับเขา เพราะอาร์เซนอลยังคงให้ความไว้วางใจและลุยซ์ได้เซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 1 ปี ในอีก 2-3 วันต่อมา

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีกและฉลองหลังดูเชลซีเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้

            ลิเวอร์พูลรอคอยแชมป์ลีกมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของพวกเขา 'หงส์แดง' ก็น่าจะได้ฉลองแชมป์เร็วกว่าแชมป์รายไหนที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ แต่เพราะการระบาดของโควิด-19 และการหยุดพักการแข่งขันไป 3 เดือน ช่วงเวลาแห่งการฉลองแชมป์ดังกล่าวเลยเพิ่งจะได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 โดยในวันนั้น ผู้เล่นลิเวอร์พูลและแฟนๆ ได้ดูเกมของแมนฯ ซิตี้ ที่เจอกับ เชลซี โดยที่พวกเขารู้ว่า ถ้าทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่สามารถเอาชนะได้ พวกเขาก็จะสิ้นสุดการรอคอยยาวนาน 30 ปีทันที ผลปรากฏว่าทัพ 'เรือ
ใบสีฟ้า' พ่ายแพ้ แต่ต้องยอมรับว่า เกมดังกล่าวคือหนึ่งในนัดที่น่าตื่นเต้นที่สุดนับตั้งแต่พรีเมียร์ ลีก รีสตาร์ท 

 

วาร์ดี้ยิงในพรีเมียร์ ลีก ครบ 100 ประตู

            เจมี่ วาร์ดี้ ทำสถิติสำคัญได้ในเดือนนี้เมื่อ 2 ประตูในนัดเจอคริสตัล พาเลซ ของเขา ทำให้กองหน้าจาก เลสเตอร์ รายนี้ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 29 ที่ยิงประตูครบ 100 ประตูในพรีเมียร์ ลีก ในประวัติศาสตร์ของรายการนี้ ถือเป็นความสำเร็จน่าประทับใจมาก และยิ่งน่าประทับใจเข้าไปใหญ่เพื่อนึกถึงความจริงที่ว่าเขาเคยเล่นฟุตบอลนอกลีกมาก่อนในตอนที่อายุ 25 ปี

Cr:smmsport.com