จิ๊กซอร์ใหม่ที่เพิ่มมิติ ลิเวอร์พูล ให้เล่นได้แบบ แมนฯ ซิตี้ เช่นกัน
Thu 24 Sep 2020, 11:02
ติอาโก้ อัลกันตาร่า อาจเป็นคนที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เสียจุดโทษ แต่มันมีเหตุผลอื่นๆ มากมายที่จะทำให้แฟนๆ หลงรักเขาในเกมเปิดตัวที่พบกับ เชลซี
การลงซ้อมแค่ 2 เซสชั่น! เจอร์เก้น คล็อปป์ รู้ดีว่า ติอาโก้ ยังไม่พร้อมสำหรับแมตช์เลยซะทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้ดีว่าดาวเตะรายนี้มีคลาสส์มากพอที่จะประคองตัวเองให้รอดได้ในสถานการณ์แบบนี้
อาการบาดเจ็บของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน บีบให้กุนซือเฮฟวี่เมทั่ล ต้องตัดสินใจเสี่ยงในครั้งนี้ เขาต้องส่งนักเตะที่เพิ่งเปิดตัวกับทีมไม่ถึง 48 ชั่วโมง ลงสนามในเกมบิ๊กแมตช์ของ พรีเมียร์ ลีก ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
สิ่งที่ทำให้การทำเสียจุดโทษของเขากลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลยก็คือ ติอาโก้ ลงไปร่ายรำในสนามเหมือนกับว่า ลิเวอร์พูล เป็นบ้านของเขามานานแล้ว เขาปักหลักได้ทันที และทำให้ 10 คนของ “สิงห์บลูส์” ต้องเผชิญกับความกดดันครั้งใหญ่
อดีตดาวเตะ บาเยิร์น มิวนิค พาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ว่างพร้อมรับบอลจากเพื่อน พาบอลไปกับตัวเอง เล่นจังหวะน้อย แต่ทรงประสิทธิภาพ
ดาวเตะวัย 29 นำความแตกต่างมาสู่ทัพ “หงส์แดง” อย่างที่ คล็อปป์ หวังได้อย่างแท้จริง มันเป็นช่วงเวลา 45 นาที ที่เขาสัมผัสบอล 89 ครั้ง และจ่ายบอลอีก 83 ซึ่งได้ผ่านไปถึงเท้าของเพื่อนทั้งหมด 75 หน
สำคัญกว่านั้นก็คือ ติอาโก้ ไม่ใช่แค่ผ่านบอลแบบเซฟๆ ปลอดภัยไปซะทุกจังหวะ แต่เขายังสามารถเคลื่อนที่หาจังหวะทำลายแนวรับ และถ่างผู้เล่นของ เชลซี ออกมาให้เพื่อนร่วมทีมของตัวเองมีพื้นที่มากกว่าเดิม
แนวทางการเคลื่อนที่ลูกฟุตบอลของเขาไปรอบๆ สนาม มองเผินๆ แล้วก็คือรูปแบบการเล่นแบบ Possession Football ที่ครอบครองเกมแบบเบ็ดเสร็จต่อเนื่อง ไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งได้หืออือ ซึ่งจะต่างกับ เกเก้น เพรซซิ่ง หรือ เฮฟวี่เมทั่ล ของ คล็อปป์ ในช่วงก่อนหน้านี้
คุณจะบอกว่ามันเป็น ลิเวอร์พูล ในมิติการเล่นแบบ แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป นั่นก็ย่อมได้!
การทำเสียจุดโทษ หากพูดกันตรงๆ เราก็ต้องยอมรับว่าเป็นการสกัดที่ซุ่มซ่ามพอตัว และจังหวะบอลของ พรีเมียร์ ลีก ก็อาจเป็นสิ่งที่เขาต้องพยายามทำความคุ้นเคยต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นมากๆ เลยก็คือ ทัศนคติของดาวเตะเลือดผสม บราซิเลี่ยน-สแปนิช ในช่วงเวลาหลังจากนั้น
ไม่มีลนลาน, ไม่มีใจเสีย, ไม่มีเหม่อฟอร์มหลุด เขายังคงก้มหน้าทำงานของตัวเองอย่างกล้าแกร่ง ความมั่นใจของเขายังเกิน 100 ไปจนครบ 90 นาทีของเกม แม้กระทั่งเพื่อนร่วมทัพ “หงส์แดง” ก็ดูเหมือนจะขยันส่งบอลให้เขามากเป็นพิเศษ
บทพิสูจน์ที่หนักกว่ายังรอเขาอยู่ และเรายังคงรอดูว่าเขาจะยืนระยะกับฟุตบอลอันหนักหน่วงของ พรีเมียร์ ลีก ได้หรือไม่ เช่นเดียวกับคำถามเรื่องสภาพร่างกายว่า “ค่อนข้างเปราะ” อย่างที่เขาว่ากันไว้จริงหรือเปล่า
แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้แน่ๆ จากวันนี้เลยก็คือ ติอาโก้ ได้ประกาศเสียงดังฟังชัดแล้วว่า เขาจะไม่ยอมนั่งแช่เป็นตัวสำรองแบบนี้ไปอีกนานๆ แน่นอน
Cr:smmsport.com
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ